พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
234 ความคิดเห็น:
1 – 200 จาก 234 ใหม่กว่า› ใหม่ที่สุด»นักศึกษาค้นคว้าแล้วตอบคำถาม
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวฐิติมา คุ้มแก้ว 56191860202
ปฐมวัย คบ.5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวฐิติมา คุ้มแก้ว 56191860202
ปฐมวัย คบ.5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวฐิติมา คุ้มแก้ว 56191860202
ปฐมวัย คบ.5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน ซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้า
และจัดส่งสินค้า
นางสาวฐิติมา คุ้มแก้ว 56191860202
ปฐมวัย คบ.5/1
1. ตอบ
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
ความสำคัญของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ตอบ
มีดังนี้
I = Information
“ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น
C = Convenience
“บางทีลูกค้าซื้อคุณ เพราะคุณให้ความสะดวกสบายได้มากกว่า”
C = Customization
“ชนะใจลูกค้าด้วยสินค้าตามสั่ง”
C = Community
“สร้างบ้านให้ลูกค้าอยู่ สร้างประตูให้ลูกค้าเข้า”
S = Saving
“ลดต้นทุน เพิ่มส่วนลด”
E = Entertainment
“เพราะความสนุกที่ได้รับ ประทับใจให้ต้องซื้อ”
T = Trust
“ลูกค้าเชื่อใจ ไม่ซื้อคุณจะซื้อใคร?”
ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น ขาดรายละเอียดทั้งในเรื่องของวัสดุ
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่น หากไม่มีการวางแผนประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
5. ไม่กำหนดตลาด
6. การออกแบบ
ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
การควบคุมและรักษาความปลอดภัยสำหรับ E-commerce
รักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่ายองค์กร มี 2 วิธี ได้แก่
ควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพ (Physical Access Control)
ควบคุมการเข้าถึงทางตรรกะ (Logical Access Control)
ตรวจสอบการเข้าถึงเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต (Detecting Unauthorized Access)
ป้องกันภัยคุกคามจากไวรัส
การใช้นโยบายในการควบคุม (Policies)
การป้องกันภัยคุกคามในเครือข่ายไร้สาย (Wireless Security)
3. ตอบ
ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคลเช่น ไม่มั่นใจว่าจะมีผู้นำหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้ประโยชน์ในทางที่มิชอบหรือไม่
ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง จะเป็นบุคคลเดี่ยวกับที่แจ้งสั่งซื้อสินค้าหรือไม่ มีความสามารถในการที่จะจ่ายสินค้าและบริการหรือไม่
4. ตอบ
แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย
รัฐต้องมีการวางแผนระยะยาวเกี่ยวกับการใช้ระบบ E-Commerce ทั้งในเรื่องของการออกกฎหมายตามหลักสากลและกฎหมายข้างเคียง เช่น เรื่องภาษี สนับสนุนหรือเป็นตัวแทนดูแลการใช้มาตรฐานต่างๆ หน่วยงานที่เป็น Certification Authority (CA) ที่ทำการรับรอง Digital Signature
5 .ตอบ
เป็นเว็บไซต์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านดอกไม้ออนไลน์ บริการส่งดอกไม้ มีทั้งดอกไม้สด กระเช้าดอกไม้ แจกันดอกไม้
www.flowerclick.net
นางสาวพีรยา เพ็งน้ำคำ รหัส 56191430107
คบ.ฟิสิกส์ หมู่1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า
รับเงินชำระค่า
สินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวฐิติมา คุ้มแก้ว 56191860202
ปฐมวัย คบ.5/1
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลก ให้คำจำกัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”
ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ตอบ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ • สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ • แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
• ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ Hacker
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถของระบบ
Cracker
มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกรุกระบบเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำลายข้อมูลผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวลัดดาวัลย์ ื กรวยทอง 561914 คบ.ฟิสิกส์
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลก ให้คำจำกัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”
ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ตอบ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ • สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ • แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
• ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ Hacker
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถของระบบ
Cracker
มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกรุกระบบเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำลายข้อมูลผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวลัดดาวัลย์ ื กรวยทอง 56191430115 คบ.ฟิสิกส์ หมู่ 1
1. ตอบ1.1ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ 2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น 3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ 4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ตัวอย่างเว็บไซค์www.micorsoft.com
นางสาวฐิติมา คุ้มแก้ว 56191860202
ปฐมวัย คบ.5/1
1.1พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
1.2ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
2.ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
3.ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government : B2G) หมายถึงธุรกิจการบริหารการค้าของประเทศ เพื่อเน้นการบริหารการจัดการที่ดีของรัฐบาล
4.ผู้บริโภคกับผู้บริโภค (Consumer to Consumer : C2C) หมายถึงธุรกิจระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นการค้ารายย่อย อาทิ การขายของเก่าให้กับบุคคลอื่นๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
1.3ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. เป็นการค้าที่ไร้พรมแดน ไม่มีการแบ่งทวีปหรือประเทศ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องระยะทาง และการเดินทาง ท่านสามารถที่จะซื้อสินค้าจากร้านหนึ่ง และเดินทางไปซื้อสินค้าจากร้านอีกร้านหนึ่งซึ่งอยู่คนละทวีปกันได้ ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ การติดต่อซื้อขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business) เช่น ระหว่างผู้ผลิตกับ ผู้จัดจำหน่าย (ตัวแทนจำหน่ายและพ่อค้าส่ง) หรือระหว่างผู้จัดจำหน่ายกับผู้ค้าปลีก เป็นต้น
2.1ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
ก่อนหน้านี้ ลูกค้าจะรู้จักคุณและสินค้าคุณจากแคตตาล็อก แต่ยิ่งมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แคตตาล็อกก็มีโอกาสที่จะถูกทิ้งลงถังขยะได้มากขึ้นเท่านั้น ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อย่างคุ้นเคย ดังนั้นการใช้เว็บไซต์จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก สำหรับกุญแจความสำเร็จของธุรกิจในการใช้กลยุทธ์ข้อนี้
2.2ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
สาเหตุที่ E-commerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งเป็นลักษณะนิสัยของคนไทย ชอบเห็นสิ่งของก่อน แล้วค่อยซื้อ และยังร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ที่ทำให้สามารถออกไป ช๊อปปิ้ง ด้วยการเดินทางที่ใช้ระยะเวลาไม่นาน ไม่เหมือนต่างประเทศ ที่ห้างร้าน อยู่ไกลกันมาก การซื้อสินค้าออนไลน์ จึงสะดวกกว่า การเดินทางไปซื้อด้วยตัวเอง และความสะดวกสบาย
2.3ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต ยิ่งไปกว่านั้นทางธนาคารกสิกรไทย ยังได้รักษาข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าให้ปลอดภัยโดยมีการตรวจสอบยืนยันการเป็นเจ้าของบัตร
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อจำกัดในการใช้ E-Commerce
ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้ การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน เพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในยุคปัจจุบัน ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
5.ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
• ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com) เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
นายสมศักดิ์ พะเนิกรัมย์ รหัส55122220139 สาขาวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การวางแผนธุระกิจที่มีประสิทธิภาพ
2.การสร้างจุดเด่นของธุระกิจ
3.การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ
4.การสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี
5.การวางแผนทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การขาดการวางแผนที่ดีพอ
2.การนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน
3.การขาดการจัดการหรือสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
4.ใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป (Schedule overruns)
5.นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์มาใช้งาน (New or unproven technology)
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การเข้ารหัสของ SSL นั้นมีได้ 2 แบบ คือ
1. การเข้ารหัสแบบ 40 bits
2. การเข้ารหัสแบบ 128 bits
2.SET (Secure Electronic Transaction) ปัจจุบันมีใช้อยู่ใน 34 ประเทศซึ่งระบบนี้จะมีความปลอดภัยกว่าระบบแรกที่กล่าวมา ระบบ SETจะแตกต่างจากระบบ SSL ตรงที่ระบบ SETจะมีหน่วยงานกลางที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม(Certification Authority: CA) ระบบ SETจะมีความปลอดภัยและไว้วางใจได้ 3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร 4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นางสาวจริยา อนงชัย 55128040255
(การปกครองท้องถิ่น) หมู่ 2
กล่าวว่าพาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
นางสาวปิยะภรณ์ ไวยาประโคน
คบ.ปฐมวัย รหัส 56191860110
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย 4 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
1.แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.ปัจจัยทางการบริหาร
3.โครงสร้างพื้นฐาน
4.ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.1พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) หมายถึง การดาเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ขณะนี้เป็นช่วงแห่งการส่งเสริม และสนับสนุนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย อีกวิธีหนึ่งที่เป็นการกระตุ้นความแพร่หลายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ใน ประเทศแบบอ้อม คือ การพัฒนาระบบของภาครัฐให้ทันสมัยมากขึ้น คือนำเอาสื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้มากขึ้น ดังจะเห็นได้จากโครงการ รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E-Commerce )
1. ธุรกิจกับธุรกิจ ( Business to Business : B to B )
2. ธุรกิจกับผู้บริโภค ( Business to Consumer : B to C
3. ธุรกิจกับรัฐบาล ( Business to Government : B to G )
4. ผู้บริโภคกับผู้บริโภค ( Consumer to Consumer : C to C )
5. รัฐบาลกับผู้บริโภค ( Government to Consumer : G to C )
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้การค้า e-Commerce ประสบผลสำเร็จ
การดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องมีปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ (ศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, 2544)
1. กล้าตัดสินใจ
2. หน้าที่หลักของท่า
3. โปรแกรมด้าน e-commerce
4. ใช้งบประมาณลงทุนน้อย
5. เร่งงานให้เสร็จตามกำหนด
2.2 ปัจจัยที่ทำให้การค้า e-Commerce ไม่ประสบผลสำเร็จ
ในการประกอบธุรกิจแบบ e-commerce นั้นมีทั้งประสบผลสำเร็จ และล้มเหลว ในที่นี้จะกล่าวถึงเว็บที่ไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งมีสาเหตุมาจาก (ศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, 2544)
1. การลอกเลียนแบบ
2. การอยู่กับความฝัน
3. ทำเว็บไซต์ที่วิจิตรสวยงาม
4. ทำเว็บไซต์แบบไร้
5. ไม่มีระบบสนับสนุนพื้นฐานที่เพียงพอ
6. ทำงานได้ทีละอย่าง
7. คิดเล็กเกินไป
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer)
2.SET (Secure Electronic Transaction)
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่านเพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนเพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในปัจจุบันการชำระเงินยังต้องผ่านธนาคารที่เป็นของต่างประเทศ
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง จึงทำให้ชนบทที่ห่างไกลไม่สามารถเข้าถึงและใช้บริการ Internet ได้
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เทคโนโลยีสารสนเทศที่รุดหน้า ทั้งระบบโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต ทำให้การสื่อสารกันเป็นไปได้โดยง่าย และสามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถโต้ตอบกันได้ทันที ทำให้สามารถเสนอธุรกรรมที่หลากหลาย เช่น การชื้อขาย การบริการหลังการขาย การโอนเงินชำระค่าบริการสินค้า การขนส่ง เป็นต้น โดยมีกฎหมายธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาคุ้มครองเรื่องความปลอดภัย
นางสาวลักขิกา วรรณอ่อน 55128040243
การปกครองท้องถิ่น หมู่ 2
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลก
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
มี3ประเภท
ตอบ - Business-to-Business (B2B) คือ การทำธุรกรรมระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกันเอง เพื่อการค้าขาย การจัดการ การผลิตหรือวัตถุดิบ เช่น การสั่งซื้อสินค้าสำหรับห้างสรรพสินค้าจากผู้ผลิต หรือการสั่งซื้อชิ้นส่วนที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
-Business-to-Consumer (B2C) คือ การทำธุรกรรมระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภคโดยตรง เป็นการซื้อขายตามปกติ เพียงแต่ใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาแทน เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกประเภทสามารถเริ่มหรือขยายฐานธุรกิจได้อย่างกว้างขวางทั่วโลก
-Business-to-Government (B2G) คือ การทำธุรกรรมระหว่างภาคธุรกิจกับภาครัฐ ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่รัฐบาลมีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างแพร่หลาย
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. I = Information “ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
2. C = Choice “ถ้าคุณมีของให้เลือกได้มาก ลูกค้าของคุณก็จะมากไปด้วย”
3. C = Convenience “บางทีลูกค้าซื้อคุณ เพราะคุณให้ความสะดวกสบายได้มากกว่า”
4. C = Customization “ชนะใจลูกค้าด้วยสินค้าตามสั่ง”
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ สินค้าไม่เป็นที่ต้องการของผู้รับบริการ
ส่งสินค้าไม่ตรงเวลา
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ การตรวจสอบอีเมล์สมาชิก' ที่อยู่.
รับเฉพาะ รหัสผ่านที่แข็งแรง.
มีการออกใบรับรองสำเนา มีการตรวจสอบเอกสารและสำเนาที่ถูกต้อง(SSL)ซึ่งจะปรากฏอย่างชัดเจนในเบราว์เซอร์ของคุณ -- เว็บไซต์
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์
อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ปัญหาความมั่นคงปลอดภัย (Security) เช่น การเจาะระบบ หรือแอบฝัง Spyware เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น
2. ปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัวสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ( Personal Lnformation ) เช่น การเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบ
3. ปัญหาความเชื่อถือของผู้ประกอบธุรกิจ การบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ ( Merchant Reliability ) เช่น ความไม่มีตัวตนของผู้ประกอบธุรกิจ การโฆษณาสินค้าหรือบริการเกินจริง ซื้อสินค้าแล้วไม่ได้ของ
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ( Critical Success Factors : CSFs ) หมายถึง ปัจจัยสำคัญในแต่ละด้านที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น ปัจจัยสำคัญด้านเทคโนโลยี คือ ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ หรือปัจจัยสำคัญด้านธุรกิจ คือ คุณค่าของสินค้าและบริการที่องค์กรจะนำเสนอแก่ลูกค้า
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
- ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com)
เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
และโดยบริษัทห้างร้าน องค์กรต่างๆ
ในการจัดอันดับโดยเน็ตมาร์เก็ตติง
ไมโครซอฟต์ได้คะแนนร้อยละ 97
เท่ากับอเมริกัน เอ็กซ์เพรส
นับได้ว่าเป็นที่สอง รองจากทรีคอม (3com)
ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 98 เป็นที่หนึ่ง
ข้อดีของอีคอมเมิร์ซ
การสั่งสินค้าง่ายและเร็วทันใจ
ราคาอาจต่ำกว่าการซื้อขายแบบธรรมดา
การให้บริการและส่งสินค้าที่รวดเร็ว
นางสาว พิณทิพย์ หวังสำราญ 551128040219
รปศ หมู่ 02
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
ความสำคัญของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลก
ประเภทของอีคอมเมิร์ซ
อีคอมเมิร์ซ 5 ประเภท ถ้าจะแบ่งอีคอมเมิร์ซเป็น 5 ประเภทก็ได้ดังต่อไปนี้
- (B-to-C = Business-to-Consumer) คือประเภทที่ผู้ซื้อปลีกใช้อินเตอร์เน็ตในการซื้อสินค้าจากธุรกิจที่โฆษณาอยู่ในอินเตอร์เน็ต
- (B-to-B = Business-to-Business) คือ ประเภท ที่ธุรกิจกับธุรกิจติดต่อซื้อขายสินค้ากันผ่านอินเตอร์เน็ต
- (B-to-G = Business-to-Government) คือประเภทที่ธุรกิจติดต่อกับหน่วยราชการ
- (G-to-G = Government to Government) คือ ประเภทที่หน่วยงานรัฐบาลหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งติดต่อกับหน่วยงานรัฐบาลอีกหน่วยงานหนึ่ง
- (C-to-C = Consumer-to-Consumer) คือ ประเภทที่ผู้บริโภคประกาศขายสินค้าแล้วผู้บริโภคอีกรายหนึ่งก็ซื้อไป เช่น ที่อีเบย์ดอทคอม (Ebay.com) เป็นต้น ซึ่งผู้บริโภคสามารถจ่ายเงินให้กันทางบัตรเครดิตได้
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
ปัจจัยที่ทำให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบความสำเร็จ
1.การวางแผนธุระกิจที่มีประสิทธิภาพ
2.การสร้างจุดเด่นของธุระกิจ
3.การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ
4.การสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี
5.การวางแผนทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจัยที่ทำให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบความล้มเหลว
1.การขาดการวางแผนที่ดีพอ
2.การนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน
3.การขาดการจัดการหรือสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
4.ใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป (Schedule overruns)
5.นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์มาใช้งาน (New or unproven technology)
ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
การตรวจสอบอีเมล์สมาชิก' ที่อยู่.รับเฉพาะ รหัสผ่านที่แข็งแรง.มีการออกใบรับรองสำเนา มีการตรวจสอบเอกสารและสำเนาที่ถูกต้อง(SSL)ซึ่งจะปรากฏอย่างชัดเจนในเบราว์เซอร์ของคุณ -- เว็บไซต์
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อจำกัดในการใช้ E-Commerce
1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2. ต้องมีการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน
3. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
4. E-Commerce ยังมีประเด็นเชิงนโยบายที่ทำให้รัฐบาลต้องเข้ามากำหนดมาตรการ เพื่อให้ความคุ้มครองกับผู้ซื้อและผู้ขาย ขณะเดียวกันมาตรการมนเรื่องระเบียบที่จะกำหนดขึ้นต้องไม่ขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยี
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ( Critical Success Factors : CSFs ) หมายถึง ปัจจัยสำคัญในแต่ละด้านที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น ปัจจัยสำคัญด้านเทคโนโลยี คือ ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ หรือปัจจัยสำคัญด้านธุรกิจ คือ คุณค่าของสินค้าและบริการที่องค์กรจะนำเสนอแก่ลูกค้า
5. ตัวอย่างธุรกิจการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
www.cisco.com เป็นบริษัทขายอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และอุปกรณ์ทางด้านเครือข่ายอื่นๆ โดยขายผ่านเว็บแบบธุรกิจต่อธุรกิจ ทำให้ยอดขายของซิสโคเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 20 ยอดขายของซิสโคได้มาจาก การใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางการสื่อสารของตลาดธุรกิจต่อธุรกิจร้อยละ 92 ของการสั่งซื้อสินค้าซิสโค เกิดจากการสั่งซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตและการบริการลูกค้ากว่าร้อยละ 80 มาจากการขอใช้บริการผ่านซิสโคออนไลน์
นางสาวพรนิภา โกทา
สาขา วิทยาศาสตร์ ระดับ คบ. 5/1
รหัส 56191960108
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลก
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
มี3ประเภท
ตอบ - Business-to-Business (B2B) คือ การทำธุรกรรมระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกันเอง เพื่อการค้าขาย การจัดการ การผลิตหรือวัตถุดิบ เช่น การสั่งซื้อสินค้าสำหรับห้างสรรพสินค้าจากผู้ผลิต หรือการสั่งซื้อชิ้นส่วนที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
-Business-to-Consumer (B2C) คือ การทำธุรกรรมระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภคโดยตรง เป็นการซื้อขายตามปกติ เพียงแต่ใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาแทน เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกประเภทสามารถเริ่มหรือขยายฐานธุรกิจได้อย่างกว้างขวางทั่วโลก
-Business-to-Government (B2G) คือ การทำธุรกรรมระหว่างภาคธุรกิจกับภาครัฐ ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่รัฐบาลมีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างแพร่หลาย
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. I = Information “ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
2. C = Choice “ถ้าคุณมีของให้เลือกได้มาก ลูกค้าของคุณก็จะมากไปด้วย”
3. C = Convenience “บางทีลูกค้าซื้อคุณ เพราะคุณให้ความสะดวกสบายได้มากกว่า”
4. C = Customization “ชนะใจลูกค้าด้วยสินค้าตามสั่ง”
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ สินค้าไม่เป็นที่ต้องการของผู้รับบริการ
ส่งสินค้าไม่ตรงเวลา
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ การตรวจสอบอีเมล์สมาชิก' ที่อยู่.
รับเฉพาะ รหัสผ่านที่แข็งแรง.
มีการออกใบรับรองสำเนา มีการตรวจสอบเอกสารและสำเนาที่ถูกต้อง(SSL)ซึ่งจะปรากฏอย่างชัดเจนในเบราว์เซอร์ของคุณ -- เว็บไซต์
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์
อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ปัญหาความมั่นคงปลอดภัย (Security) เช่น การเจาะระบบ หรือแอบฝัง Spyware เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น
2. ปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัวสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ( Personal Lnformation ) เช่น การเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบ
3. ปัญหาความเชื่อถือของผู้ประกอบธุรกิจ การบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ ( Merchant Reliability ) เช่น ความไม่มีตัวตนของผู้ประกอบธุรกิจ การโฆษณาสินค้าหรือบริการเกินจริง ซื้อสินค้าแล้วไม่ได้ของ
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ( Critical Success Factors : CSFs ) หมายถึง ปัจจัยสำคัญในแต่ละด้านที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น ปัจจัยสำคัญด้านเทคโนโลยี คือ ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ หรือปัจจัยสำคัญด้านธุรกิจ คือ คุณค่าของสินค้าและบริการที่องค์กรจะนำเสนอแก่ลูกค้า
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
www.flowerclick.net เป็นเว็บไซต์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านดอกไม้ออนไลน์ บริการส่งดอกไม้ มีทั้งดอกไม้สด กระเช้าดอกไม้ แจกันดอกไม้
นางสาว ปิยพร สุระ
รหัส 56191960109
คบ.วิทยาศาสตร์ 5/1
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย 4 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
1.แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.ปัจจัยทางการบริหาร
3.โครงสร้างพื้นฐาน
4.ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.1พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) หมายถึง การดาเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ขณะนี้เป็นช่วงแห่งการส่งเสริม และสนับสนุนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย อีกวิธีหนึ่งที่เป็นการกระตุ้นความแพร่หลายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ใน ประเทศแบบอ้อม คือ การพัฒนาระบบของภาครัฐให้ทันสมัยมากขึ้น คือนำเอาสื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้มากขึ้น ดังจะเห็นได้จากโครงการ รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E-Commerce )
1. ธุรกิจกับธุรกิจ ( Business to Business : B to B )
2. ธุรกิจกับผู้บริโภค ( Business to Consumer : B to C
3. ธุรกิจกับรัฐบาล ( Business to Government : B to G )
4. ผู้บริโภคกับผู้บริโภค ( Consumer to Consumer : C to C )
5. รัฐบาลกับผู้บริโภค ( Government to Consumer : G to C )
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้การค้า e-Commerce ประสบผลสำเร็จ
การดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องมีปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ (ศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, 2544)
1. กล้าตัดสินใจ
2. หน้าที่หลักของท่า
3. โปรแกรมด้าน e-commerce
4. ใช้งบประมาณลงทุนน้อย
5. เร่งงานให้เสร็จตามกำหนด
2.2 ปัจจัยที่ทำให้การค้า e-Commerce ไม่ประสบผลสำเร็จ
ในการประกอบธุรกิจแบบ e-commerce นั้นมีทั้งประสบผลสำเร็จ และล้มเหลว ในที่นี้จะกล่าวถึงเว็บที่ไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งมีสาเหตุมาจาก (ศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, 2544)
1. การลอกเลียนแบบ
2. การอยู่กับความฝัน
3. ทำเว็บไซต์ที่วิจิตรสวยงาม
4. ทำเว็บไซต์แบบไร้
5. ไม่มีระบบสนับสนุนพื้นฐานที่เพียงพอ
6. ทำงานได้ทีละอย่าง
7. คิดเล็กเกินไป
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer)
2.SET (Secure Electronic Transaction)
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่านเพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนเพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในปัจจุบันการชำระเงินยังต้องผ่านธนาคารที่เป็นของต่างประเทศ
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง จึงทำให้ชนบทที่ห่างไกลไม่สามารถเข้าถึงและใช้บริการ Internet ได้
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เทคโนโลยีสารสนเทศที่รุดหน้า ทั้งระบบโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต ทำให้การสื่อสารกันเป็นไปได้โดยง่าย และสามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถโต้ตอบกันได้ทันที ทำให้สามารถเสนอธุรกรรมที่หลากหลาย เช่น การชื้อขาย การบริการหลังการขาย การโอนเงินชำระค่าบริการสินค้า การขนส่ง เป็นต้น โดยมีกฎหมายธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาคุ้มครองเรื่องความปลอดภัย
นางสาว ภัสราภรณ์ สินสอน 55128040222
รัฐประศาสนศาสตร์(การปกครองท้องถิ่น) หมู่2
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลก ให้คำจำกัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”
ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ตอบ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ • สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ • แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
• ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ Hacker
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถของระบบ
Cracker
มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกรุกระบบเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำลายข้อมูลผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาว ราตรี หวังสำราญ 55128040239 การปกครองท้องถิ่น หมุ่ 2
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์
1.การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อังกฤษ: Electronic commerce) หรือ อีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) [1] หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
2.ความสำคัญ
ประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อการเดินทางไปซื้อสินค้า
ประหยัดเวลาในการติดต่อ
การเปิดร้านค้าในอินเทอร์เน็ตเป็นการขยายตลาดสู่ทั่วโลก
ไม่จำกัดเฉพาะแค่ในประเทศ และยังทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการได้เลือกซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น
ผู้ขายสามารถเปิดร้านได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด และผู้บริโภคก็สามารถซื้อสินค้าได้ทุกวัน
3.ประเภท
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
4.ลักษณะ
เป็นแบบข้อมูลดิจิทัล
ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล
2 ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1คือ ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ
การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ทำให้ความเป็นไปได้ที่ข้อมูลของลูกค้าจะถูกขโมยไปใช้มีค่าเท่ากับศูนย์ และยิ่งไปกว่านั้นลูกค้ายังได้รับความอุ่นใจในเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลที่มากขึ้นจากทีมวิเคราะห์ ครั้งที่ชำระเงินผ่านHotelsThailand.com ข้อมูลต่างๆ จะถูกยืนยันความถูกต้องและตรวจสอบโดยทีมวิเคราะห์
3
3.1. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1 ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการ
2.ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง จะเป็นบุคคลเดี่ยวกับที่แจ้งสั่งซื้อสินค้าหรือไม่ มีความสามารถในการที่จะจ่ายสินค้าและบริการหรือไม่
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.เริ่มจากการมีเงินลงทุนจำนวนมากก่อน
2ต้องเริ่มต้นจากความคิดที่ต้องการประกอบธุรกิจ
3.ค ว า ม คิ ด ส ร ้ า ง ส ร ร ค ์ แ ล ะ ก า ร แ ส ว ง ห า
โ อ ก า ส
5.ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- บัตรเครดิต
-อินเทอรืเน็ต
-โทรศัพท์
นางสาว วรรณนภา พงษ์สุวรรณ์ ค.บ.วิทยาศาตร์ 56191960211 ค.บ.5/1
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลก
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
มี3ประเภท
ตอบ - Business-to-Business (B2B) คือ การทำธุรกรรมระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกันเอง เพื่อการค้าขาย การจัดการ การผลิตหรือวัตถุดิบ เช่น การสั่งซื้อสินค้าสำหรับห้างสรรพสินค้าจากผู้ผลิต หรือการสั่งซื้อชิ้นส่วนที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
-Business-to-Consumer (B2C) คือ การทำธุรกรรมระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภคโดยตรง เป็นการซื้อขายตามปกติ เพียงแต่ใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาแทน เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกประเภทสามารถเริ่มหรือขยายฐานธุรกิจได้อย่างกว้างขวางทั่วโลก
-Business-to-Government (B2G) คือ การทำธุรกรรมระหว่างภาคธุรกิจกับภาครัฐ ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่รัฐบาลมีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างแพร่หลาย
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. I = Information “ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
2. C = Choice “ถ้าคุณมีของให้เลือกได้มาก ลูกค้าของคุณก็จะมากไปด้วย”
3. C = Convenience “บางทีลูกค้าซื้อคุณ เพราะคุณให้ความสะดวกสบายได้มากกว่า”
4. C = Customization “ชนะใจลูกค้าด้วยสินค้าตามสั่ง”
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ สินค้าไม่เป็นที่ต้องการของผู้รับบริการ
ส่งสินค้าไม่ตรงเวลา
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ การตรวจสอบอีเมล์สมาชิก' ที่อยู่.
รับเฉพาะ รหัสผ่านที่แข็งแรง.
มีการออกใบรับรองสำเนา มีการตรวจสอบเอกสารและสำเนาที่ถูกต้อง(SSL)ซึ่งจะปรากฏอย่างชัดเจนในเบราว์เซอร์ของคุณ -- เว็บไซต์
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์
อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ปัญหาความมั่นคงปลอดภัย (Security) เช่น การเจาะระบบ หรือแอบฝัง Spyware เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น
2. ปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัวสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ( Personal Lnformation ) เช่น การเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบ
3. ปัญหาความเชื่อถือของผู้ประกอบธุรกิจ การบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ ( Merchant Reliability ) เช่น ความไม่มีตัวตนของผู้ประกอบธุรกิจ การโฆษณาสินค้าหรือบริการเกินจริง ซื้อสินค้าแล้วไม่ได้ของ
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ( Critical Success Factors : CSFs ) หมายถึง ปัจจัยสำคัญในแต่ละด้านที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น ปัจจัยสำคัญด้านเทคโนโลยี คือ ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ หรือปัจจัยสำคัญด้านธุรกิจ คือ คุณค่าของสินค้าและบริการที่องค์กรจะนำเสนอแก่ลูกค้า
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
- ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com)
เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
และโดยบริษัทห้างร้าน องค์กรต่างๆ
ในการจัดอันดับโดยเน็ตมาร์เก็ตติง
ไมโครซอฟต์ได้คะแนนร้อยละ 97
เท่ากับอเมริกัน เอ็กซ์เพรส
นับได้ว่าเป็นที่สอง รองจากทรีคอม (3com)
ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 98 เป็นที่หนึ่ง
ข้อดีของอีคอมเมิร์ซ
การสั่งสินค้าง่ายและเร็วทันใจ
ราคาอาจต่ำกว่าการซื้อขายแบบธรรมดา
การให้บริการและส่งสินค้าที่รวดเร็ว
นางสาวรพีพร โพธิ์ทอง รปศ. หมู่2
55128040232
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
นางสาวกมลมาศ บุญเพ็ง
คบ.ปฐมวัย หมู่1 รหัส 56191860144
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
เอก คหกรรมศาสตร์ หมู่2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว ศุภักษร ทรงวาจา 55191600225
นางสาว สุพานี สว้างแผ้ว 55191600232
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว ศุภักษร ทรงวาจา 55191600225
นางสาว สุพานี สว่างแผ้ว 55191600232
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว ศุภักษร ทรงวาจา 55191600225
นางสาว สุพานี สว่างแผ้ว 55191600232
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว ศุภักษร ทรงวาจา 55191600225
นางสาว สุพานี สว่างแผ้ว 55191600232
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว ศุภักษร ทรงวาจา 55191600225
นางสาว สุพานี สว่างแผ้ว 55191600232
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว ศุภักษร ทรงวาจา 55191600225
นางสาว สุพานี สว่างแผ้ว 55191600232
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว ศุภักษร ทรงวาจา 55191600225
นางสาว สุพานี สว่างแผ้ว 55191600232
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว ศุภักษร ทรงวาจา 55191600225
นางสาว สุพานี สว่างแผ้ว 55191600232
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว ศุภักษร ทรงวาจา 55191600225
นางสาว สุพานี สว่างแผ้ว 55191600232
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว ศุภักษร ทรงวาจา 55191600225
นางสาว สุพานี สว่างแผ้ว 55191600232
1.1พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
1.2ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
2.ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
3.ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government : B2G) หมายถึงธุรกิจการบริหารการค้าของประเทศ เพื่อเน้นการบริหารการจัดการที่ดีของรัฐบาล
4.ผู้บริโภคกับผู้บริโภค (Consumer to Consumer : C2C) หมายถึงธุรกิจระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นการค้ารายย่อย อาทิ การขายของเก่าให้กับบุคคลอื่นๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
1.3ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. เป็นการค้าที่ไร้พรมแดน ไม่มีการแบ่งทวีปหรือประเทศ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องระยะทาง และการเดินทาง ท่านสามารถที่จะซื้อสินค้าจากร้านหนึ่ง และเดินทางไปซื้อสินค้าจากร้านอีกร้านหนึ่งซึ่งอยู่คนละทวีปกันได้ ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ การติดต่อซื้อขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business) เช่น ระหว่างผู้ผลิตกับ ผู้จัดจำหน่าย (ตัวแทนจำหน่ายและพ่อค้าส่ง) หรือระหว่างผู้จัดจำหน่ายกับผู้ค้าปลีก เป็นต้น
2.1ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
ก่อนหน้านี้ ลูกค้าจะรู้จักคุณและสินค้าคุณจากแคตตาล็อก แต่ยิ่งมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แคตตาล็อกก็มีโอกาสที่จะถูกทิ้งลงถังขยะได้มากขึ้นเท่านั้น ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อย่างคุ้นเคย ดังนั้นการใช้เว็บไซต์จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก สำหรับกุญแจความสำเร็จของธุรกิจในการใช้กลยุทธ์ข้อนี้
2.2ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
สาเหตุที่ E-commerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งเป็นลักษณะนิสัยของคนไทย ชอบเห็นสิ่งของก่อน แล้วค่อยซื้อ และยังร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ที่ทำให้สามารถออกไป ช๊อปปิ้ง ด้วยการเดินทางที่ใช้ระยะเวลาไม่นาน ไม่เหมือนต่างประเทศ ที่ห้างร้าน อยู่ไกลกันมาก การซื้อสินค้าออนไลน์ จึงสะดวกกว่า การเดินทางไปซื้อด้วยตัวเอง และความสะดวกสบาย
2.3ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต ยิ่งไปกว่านั้นทางธนาคารกสิกรไทย ยังได้รักษาข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าให้ปลอดภัยโดยมีการตรวจสอบยืนยันการเป็นเจ้าของบัตร
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อจำกัดในการใช้ E-Commerce
ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้ การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน เพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในยุคปัจจุบัน ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
5.ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
• ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com) เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
นายอรรคเดช ฤกษ์ศรี รหัส55122220152 สาขาวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายจตุรงค์ ผดุงรัตน์ 56191470117
ดนตรีศึกษา คบ.5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายจตุรงค์ ผดุงรัตน์
ค.บ.ดนตรีศึกษา 56191470117
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายจตุรงค์ ผดุงรัตน์
ค.บ.ดนตรีศึกษา 56191470117
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายจตุรงค์ ผดุงรัตน์
ค.บ.ดนตรีศึกษา 56191470117
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายจตุรงค์ ผดุงรัตน์
ค.บ.ดนตรีศึกษา 56191470117
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2 คบ5/2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว สุพานี สว่างแผ้ว 55191600232
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2 คบ5/2
นางสาว ศุภักษร ทรงวาจา 55191600225
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2 คบ5/2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว สุพานี สว่างแผ้ว 55191600232
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
เอก คหกรรมศาสตร์ หมู่ 2 คบ 5/2
นางสาว ศุภักษร ทรงวาจา
55191600225
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
เอกคหกรรมศาสตร์ หมู่2 คบ5/2
นางสาว ไพริน พรมศร 55191600204
นางสาว พูนทรัพย์ ไกรเพชร 55191600206
นางสาว รัตติยา รัตนนท์ 55191600213
นางสาว สุพานี สว่างแผ้ว 55191600232
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การวางแผนธุระกิจที่มีประสิทธิภาพ
2.การสร้างจุดเด่นของธุระกิจ
3.การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ
4.การสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี
5.การวางแผนทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การขาดการวางแผนที่ดีพอ
2.การนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน
3.การขาดการจัดการหรือสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
4.ใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป (Schedule overruns)
5.นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์มาใช้งาน (New or unproven technology)
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การเข้ารหัสของ SSL นั้นมีได้ 2 แบบ คือ
1. การเข้ารหัสแบบ 40 bits
2. การเข้ารหัสแบบ 128 bits
2.SET (Secure Electronic Transaction) ปัจจุบันมีใช้อยู่ใน 34 ประเทศซึ่งระบบนี้จะมีความปลอดภัยกว่าระบบแรกที่กล่าวมา ระบบ SETจะแตกต่างจากระบบ SSL ตรงที่ระบบ SETจะมีหน่วยงานกลางที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม(Certification Authority: CA) ระบบ SETจะมีความปลอดภัยและไว้วางใจได้ 3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร 4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้
นางสาว ภัสราภรณ์ สินสอน 55128040222
รัฐประศาสนศาสตร์(การปกครองท้องถิ่น)หมู่2
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การวางแผนธุระกิจที่มีประสิทธิภาพ
2.การสร้างจุดเด่นของธุระกิจ
3.การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ
4.การสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี
5.การวางแผนทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การขาดการวางแผนที่ดีพอ
2.การนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน
3.การขาดการจัดการหรือสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
4.ใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป (Schedule overruns)
5.นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์มาใช้งาน (New or unproven technology)
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การเข้ารหัสของ SSL นั้นมีได้ 2 แบบ คือ
1. การเข้ารหัสแบบ 40 bits
2. การเข้ารหัสแบบ 128 bits
2.SET (Secure Electronic Transaction) ปัจจุบันมีใช้อยู่ใน 34 ประเทศซึ่งระบบนี้จะมีความปลอดภัยกว่าระบบแรกที่กล่าวมา ระบบ SETจะแตกต่างจากระบบ SSL ตรงที่ระบบ SETจะมีหน่วยงานกลางที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม(Certification Authority: CA) ระบบ SETจะมีความปลอดภัยและไว้วางใจได้ 3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร 4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นางสาววนิดา จันทุมา 55128040244
รปศ. หมู่ 2
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การวางแผนธุระกิจที่มีประสิทธิภาพ
2.การสร้างจุดเด่นของธุระกิจ
3.การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ
4.การสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี
5.การวางแผนทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การขาดการวางแผนที่ดีพอ
2.การนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน
3.การขาดการจัดการหรือสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
4.ใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป (Schedule overruns)
5.นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์มาใช้งาน (New or unproven technology)
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การเข้ารหัสของ SSL นั้นมีได้ 2 แบบ คือ
1. การเข้ารหัสแบบ 40 bits
2. การเข้ารหัสแบบ 128 bits
2.SET (Secure Electronic Transaction) ปัจจุบันมีใช้อยู่ใน 34 ประเทศซึ่งระบบนี้จะมีความปลอดภัยกว่าระบบแรกที่กล่าวมา ระบบ SETจะแตกต่างจากระบบ SSL ตรงที่ระบบ SETจะมีหน่วยงานกลางที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม(Certification Authority: CA) ระบบ SETจะมีความปลอดภัยและไว้วางใจได้ 3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร 4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้
นางสาว ภัสราภรณ์ สินสอน 55128040222
รัฐประศาสนศาสตร์(การปกครองท้องถิ่น)หมู่2
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นายวรรธนธัช สุวงศ์ ค.บ. ฟิสิกส์ 56191430120
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้ การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มาก มายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวมินตรา ภูมิสิทธิ์ 56191430106 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้ การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มาก มายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวมินตรา ภูมิสิทธิ์ 56191430106 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้ การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มาก มายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวเจนจิรา พอกพูน 56191430101 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
นางสาวมณีรัตน์ กล้าหาญ 56191430104 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
นางสาวมินตรา ภูมิสิทธิ์ 56191430106 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
นางสาวทนิดา อรรคบาล 56191430134 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้ การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มาก มายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวเจนจิรา พอกพูน 56191430101 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
นางสาวมณีรัตน์ กล้าหาญ 56191430104 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
นางสาวมินตรา ภูมิสิทธิ์ 56191430106 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
นางสาวทนิดา อรรคบาล 56191430134 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้ การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มาก มายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นายสนธยา แสนกล้า 56191430133 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้ การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มาก มายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวเจนจิรา พอกพูน 56191430101 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
นางสาวมณีรัตน์ กล้าหาญ 56191430104 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
นางสาวมินตรา ภูมิสิทธิ์ 56191430106 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
นางสาวทนิดา อรรคบาล 56191430134 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้ การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มาก มายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นายสนธยา แสนกล้า 56191430133 คบ.ฟิสิกส์ ระดับ5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน ซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้า
และจัดส่งสินค้า
นายเกียรติศักดิ์ แก้วจรัญ56191470116ค.บ ดนตรีศึกษาระดับค.บ5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายจตุรงค์ ผดุงรัตน์ 56191470117
นายปิชรวิทย์ วงศ์หินกอง 56191470118
นายมนูญ จันทร์หนองสรวง 56191470119
ค.บ.ดนตรีศึกษา
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายจตุรงค์ ผดุงรัตน์ 56191470117
นายปิชรวิทย์ วงศ์หินกอง 56191470118
นายมนูญ จันทร์หนองสรวง 56191470119
ค.บ.ดนตรีศึกษา
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลก ให้คำจำกัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”
ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ตอบ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ • สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ • แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
• ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ Hacker
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถของระบบ
Cracker
มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกรุกระบบเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำลายข้อมูลผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นายชัยยศ ทรงชาติ
พลศึกษา 55191890133
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวสถิตย์ภรณ์ วงค์เมือง
นางสาวประภาวดี บุญคลี่
นางสาววันวิภา แพนไฮ
นางสาวอลิษา สีสันงาม
คบ คหกรรมศาสตร์ หมู่ 2
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลก
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
มี3ประเภท
ตอบ - Business-to-Business (B2B) คือ การทำธุรกรรมระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกันเอง เพื่อการค้าขาย การจัดการ การผลิตหรือวัตถุดิบ เช่น การสั่งซื้อสินค้าสำหรับห้างสรรพสินค้าจากผู้ผลิต หรือการสั่งซื้อชิ้นส่วนที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
-Business-to-Consumer (B2C) คือ การทำธุรกรรมระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภคโดยตรง เป็นการซื้อขายตามปกติ เพียงแต่ใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาแทน เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกประเภทสามารถเริ่มหรือขยายฐานธุรกิจได้อย่างกว้างขวางทั่วโลก
-Business-to-Government (B2G) คือ การทำธุรกรรมระหว่างภาคธุรกิจกับภาครัฐ ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่รัฐบาลมีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างแพร่หลาย
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. I = Information “ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
2. C = Choice “ถ้าคุณมีของให้เลือกได้มาก ลูกค้าของคุณก็จะมากไปด้วย”
3. C = Convenience “บางทีลูกค้าซื้อคุณ เพราะคุณให้ความสะดวกสบายได้มากกว่า”
4. C = Customization “ชนะใจลูกค้าด้วยสินค้าตามสั่ง”
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ สินค้าไม่เป็นที่ต้องการของผู้รับบริการ
ส่งสินค้าไม่ตรงเวลา
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ การตรวจสอบอีเมล์สมาชิก' ที่อยู่.
รับเฉพาะ รหัสผ่านที่แข็งแรง.
มีการออกใบรับรองสำเนา มีการตรวจสอบเอกสารและสำเนาที่ถูกต้อง(SSL)ซึ่งจะปรากฏอย่างชัดเจนในเบราว์เซอร์ของคุณ -- เว็บไซต์
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์
อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ปัญหาความมั่นคงปลอดภัย (Security) เช่น การเจาะระบบ หรือแอบฝัง Spyware เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น
2. ปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัวสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ( Personal Lnformation ) เช่น การเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบ
3. ปัญหาความเชื่อถือของผู้ประกอบธุรกิจ การบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ ( Merchant Reliability ) เช่น ความไม่มีตัวตนของผู้ประกอบธุรกิจ การโฆษณาสินค้าหรือบริการเกินจริง ซื้อสินค้าแล้วไม่ได้ของ
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ( Critical Success Factors : CSFs ) หมายถึง ปัจจัยสำคัญในแต่ละด้านที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น ปัจจัยสำคัญด้านเทคโนโลยี คือ ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ หรือปัจจัยสำคัญด้านธุรกิจ คือ คุณค่าของสินค้าและบริการที่องค์กรจะนำเสนอแก่ลูกค้า
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
- ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com)
เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
และโดยบริษัทห้างร้าน องค์กรต่างๆ
ในการจัดอันดับโดยเน็ตมาร์เก็ตติง
ไมโครซอฟต์ได้คะแนนร้อยละ 97
เท่ากับอเมริกัน เอ็กซ์เพรส
นับได้ว่าเป็นที่สอง รองจากทรีคอม (3com)
ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 98 เป็นที่หนึ่ง
ข้อดีของอีคอมเมิร์ซ
การสั่งสินค้าง่ายและเร็วทันใจ
ราคาอาจต่ำกว่าการซื้อขายแบบธรรมดา
การให้บริการและส่งสินค้าที่รวดเร็ว
นางสาววันวิภา แพนไฮ คหกรรมศาสตร์
รหัส 55191600216
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นายณัฐพล โลประโคน 55191890143
นางสาวณัฐกานต์ สังสมานันท์ 55191890158
นางสาวจิราภรณ์ สุวงษ์ 55191890159
พลศึกษา ปี 2
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลก ให้คำจำกัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”
ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ตอบ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ • สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ • แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
• ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ Hacker
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถของระบบ
Cracker
มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกรุกระบบเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำลายข้อมูลผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวสมฤดี สมคิด 56191960235 คบ.วิทยาศาสตร์ หมู่ 2
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวนุสรา วันดี 55128040203 รปศ.(การปกครองท้องถิ่น)หมู่2
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ -->>การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> 1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> - ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
- ธุรกิจและลูกค้า
- ธุรกิจกับรัฐบาล
- ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
- สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
- สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ --->>1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ
2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ--->> 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
5. ไม่กำหนดตลาด
6. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ--->> ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> 1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวสลิลทิพย์ พิมศร
รหัส 56122420123 วท.บ 4/1
วิทยาการคอมพิวเตอร์
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ -->>การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> 1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> - ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
- ธุรกิจและลูกค้า
- ธุรกิจกับรัฐบาล
- ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
- สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
- สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ --->>1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ
2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ--->> 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
5. ไม่กำหนดตลาด
6. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ--->> ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> 1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวสลิลทิพย์ พิมศร
รหัส 56122420123 วท.บ 4/1
วิทยาการคอมพิวเตอร์
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลก
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
มี3ประเภท
ตอบ - Business-to-Business (B2B) คือ การทำธุรกรรมระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกันเอง เพื่อการค้าขาย การจัดการ การผลิตหรือวัตถุดิบ เช่น การสั่งซื้อสินค้าสำหรับห้างสรรพสินค้าจากผู้ผลิต หรือการสั่งซื้อชิ้นส่วนที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
-Business-to-Consumer (B2C) คือ การทำธุรกรรมระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภคโดยตรง เป็นการซื้อขายตามปกติ เพียงแต่ใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาแทน เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกประเภทสามารถเริ่มหรือขยายฐานธุรกิจได้อย่างกว้างขวางทั่วโลก
-Business-to-Government (B2G) คือ การทำธุรกรรมระหว่างภาคธุรกิจกับภาครัฐ ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่รัฐบาลมีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างแพร่หลาย
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. I = Information “ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
2. C = Choice “ถ้าคุณมีของให้เลือกได้มาก ลูกค้าของคุณก็จะมากไปด้วย”
3. C = Convenience “บางทีลูกค้าซื้อคุณ เพราะคุณให้ความสะดวกสบายได้มากกว่า”
4. C = Customization “ชนะใจลูกค้าด้วยสินค้าตามสั่ง”
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ สินค้าไม่เป็นที่ต้องการของผู้รับบริการ
ส่งสินค้าไม่ตรงเวลา
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ การตรวจสอบอีเมล์สมาชิก' ที่อยู่.
รับเฉพาะ รหัสผ่านที่แข็งแรง.
มีการออกใบรับรองสำเนา มีการตรวจสอบเอกสารและสำเนาที่ถูกต้อง(SSL)ซึ่งจะปรากฏอย่างชัดเจนในเบราว์เซอร์ของคุณ -- เว็บไซต์
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์
อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ปัญหาความมั่นคงปลอดภัย (Security) เช่น การเจาะระบบ หรือแอบฝัง Spyware เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น
2. ปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัวสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ( Personal Lnformation ) เช่น การเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบ
3. ปัญหาความเชื่อถือของผู้ประกอบธุรกิจ การบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ ( Merchant Reliability ) เช่น ความไม่มีตัวตนของผู้ประกอบธุรกิจ การโฆษณาสินค้าหรือบริการเกินจริง ซื้อสินค้าแล้วไม่ได้ของ
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ( Critical Success Factors : CSFs ) หมายถึง ปัจจัยสำคัญในแต่ละด้านที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น ปัจจัยสำคัญด้านเทคโนโลยี คือ ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ หรือปัจจัยสำคัญด้านธุรกิจ คือ คุณค่าของสินค้าและบริการที่องค์กรจะนำเสนอแก่ลูกค้า
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
- ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com)
เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
และโดยบริษัทห้างร้าน องค์กรต่างๆ
ในการจัดอันดับโดยเน็ตมาร์เก็ตติง
ไมโครซอฟต์ได้คะแนนร้อยละ 97
เท่ากับอเมริกัน เอ็กซ์เพรส
นับได้ว่าเป็นที่สอง รองจากทรีคอม (3com)
ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 98 เป็นที่หนึ่ง
ข้อดีของอีคอมเมิร์ซ
การสั่งสินค้าง่ายและเร็วทันใจ
ราคาอาจต่ำกว่าการซื้อขายแบบธรรมดา
การให้บริการและส่งสินค้าที่รวดเร็
นาย วัชรงษ์ ทองลอย
55128040250
รปศ(กรปกครองท้องถิ้น)
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลก
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
มี3ประเภท
ตอบ - Business-to-Business (B2B) คือ การทำธุรกรรมระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกันเอง เพื่อการค้าขาย การจัดการ การผลิตหรือวัตถุดิบ เช่น การสั่งซื้อสินค้าสำหรับห้างสรรพสินค้าจากผู้ผลิต หรือการสั่งซื้อชิ้นส่วนที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
-Business-to-Consumer (B2C) คือ การทำธุรกรรมระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภคโดยตรง เป็นการซื้อขายตามปกติ เพียงแต่ใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาแทน เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกประเภทสามารถเริ่มหรือขยายฐานธุรกิจได้อย่างกว้างขวางทั่วโลก
-Business-to-Government (B2G) คือ การทำธุรกรรมระหว่างภาคธุรกิจกับภาครัฐ ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่รัฐบาลมีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างแพร่หลาย
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. I = Information “ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
2. C = Choice “ถ้าคุณมีของให้เลือกได้มาก ลูกค้าของคุณก็จะมากไปด้วย”
3. C = Convenience “บางทีลูกค้าซื้อคุณ เพราะคุณให้ความสะดวกสบายได้มากกว่า”
4. C = Customization “ชนะใจลูกค้าด้วยสินค้าตามสั่ง”
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ สินค้าไม่เป็นที่ต้องการของผู้รับบริการ
ส่งสินค้าไม่ตรงเวลา
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ การตรวจสอบอีเมล์สมาชิก' ที่อยู่.
รับเฉพาะ รหัสผ่านที่แข็งแรง.
มีการออกใบรับรองสำเนา มีการตรวจสอบเอกสารและสำเนาที่ถูกต้อง(SSL)ซึ่งจะปรากฏอย่างชัดเจนในเบราว์เซอร์ของคุณ -- เว็บไซต์
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์
อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ปัญหาความมั่นคงปลอดภัย (Security) เช่น การเจาะระบบ หรือแอบฝัง Spyware เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น
2. ปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัวสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ( Personal Lnformation ) เช่น การเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบ
3. ปัญหาความเชื่อถือของผู้ประกอบธุรกิจ การบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ ( Merchant Reliability ) เช่น ความไม่มีตัวตนของผู้ประกอบธุรกิจ การโฆษณาสินค้าหรือบริการเกินจริง ซื้อสินค้าแล้วไม่ได้ของ
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ( Critical Success Factors : CSFs ) หมายถึง ปัจจัยสำคัญในแต่ละด้านที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น ปัจจัยสำคัญด้านเทคโนโลยี คือ ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ หรือปัจจัยสำคัญด้านธุรกิจ คือ คุณค่าของสินค้าและบริการที่องค์กรจะนำเสนอแก่ลูกค้า
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
- ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com)
เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
และโดยบริษัทห้างร้าน องค์กรต่างๆ
ในการจัดอันดับโดยเน็ตมาร์เก็ตติง
ไมโครซอฟต์ได้คะแนนร้อยละ 97
เท่ากับอเมริกัน เอ็กซ์เพรส
นับได้ว่าเป็นที่สอง รองจากทรีคอม (3com)
ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 98 เป็นที่หนึ่ง
ข้อดีของอีคอมเมิร์ซ
การสั่งสินค้าง่ายและเร็วทันใจ
ราคาอาจต่ำกว่าการซื้อขายแบบธรรมดา
การให้บริการและส่งสินค้าที่รวดเร็
นาย รังสรรค์ กระจ่างจิต
55128040233
รปศ. (การปกครองท้องถิ้น)
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นายศราวุธ สายดวง 55122220133
เทคโนโลยีวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม วท.บ.4ปี
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นายศราวุธ สายดวง 55122220133
เทคโนโลยีวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม วท.บ.4ปี
กล่าวว่าพาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
นายสานิตย์ ประจบดี 55122220142
สาขา เทคโนโลยีวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นายสานิตย์ ประจบดี 55122220142
สาขา เทคโนโลยีวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นายจตุรงค์ ผดุงรัตน์ 56191470117
นายปิชรวิทย์ วงศ์หินกอง 56191470118
นายมนูญ จันทร์หนองสรวง 56191470119
ค.บ.ดนตรีศึกษา
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวพิณิดา ภาษี 55128040212 รปศ.การปกครองท้องถิ่น
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวพิณิดา ภาษี 55128040212 รปศ.การปกครองท้องถิ่น
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวพณิดา ภาษี 55128040212 รปศ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวพณิดา ภาษี 55128040212 รปศ.
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวพณิดา ภาษี 55128040212 รปศ.
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การวางแผนธุระกิจที่มีประสิทธิภาพ
2.การสร้างจุดเด่นของธุระกิจ
3.การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ
4.การสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี
5.การวางแผนทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การขาดการวางแผนที่ดีพอ
2.การนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน
3.การขาดการจัดการหรือสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
4.ใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป (Schedule overruns)
5.นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์มาใช้งาน (New or unproven technology)
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การเข้ารหัสของ SSL นั้นมีได้ 2 แบบ คือ
1. การเข้ารหัสแบบ 40 bits
2. การเข้ารหัสแบบ 128 bits
2.SET (Secure Electronic Transaction) ปัจจุบันมีใช้อยู่ใน 34 ประเทศซึ่งระบบนี้จะมีความปลอดภัยกว่าระบบแรกที่กล่าวมา ระบบ SETจะแตกต่างจากระบบ SSL ตรงที่ระบบ SETจะมีหน่วยงานกลางที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม(Certification Authority: CA) ระบบ SETจะมีความปลอดภัยและไว้วางใจได้ 3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร 4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้
นางสาว ภัสราภรณ์ สินสอน 55128040222 รัฐประศาสนศาสตร์(การปกครองท้องถิ่น) หมู่2
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การวางแผนธุระกิจที่มีประสิทธิภาพ
2.การสร้างจุดเด่นของธุระกิจ
3.การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ
4.การสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี
5.การวางแผนทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การขาดการวางแผนที่ดีพอ
2.การนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน
3.การขาดการจัดการหรือสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
4.ใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป (Schedule overruns)
5.นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์มาใช้งาน (New or unproven technology)
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การเข้ารหัสของ SSL นั้นมีได้ 2 แบบ คือ
1. การเข้ารหัสแบบ 40 bits
2. การเข้ารหัสแบบ 128 bits
2.SET (Secure Electronic Transaction) ปัจจุบันมีใช้อยู่ใน 34 ประเทศซึ่งระบบนี้จะมีความปลอดภัยกว่าระบบแรกที่กล่าวมา ระบบ SETจะแตกต่างจากระบบ SSL ตรงที่ระบบ SETจะมีหน่วยงานกลางที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม(Certification Authority: CA) ระบบ SETจะมีความปลอดภัยและไว้วางใจได้ 3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร 4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้
นางสาว ภัสราภรณ์ สินสอน 55128040222
รัฐประศาสนศาสตร์ หมู่2
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
(1) ธุรกิจกับผู้ซื้อปลีกหรือบีทูซี (B-to-C = Business-to-Consumer) คือประเภทที่ผู้ซื้อปลีกใช้อินเตอร์เน็ตในการซื้อสินค้าจากธุรกิจที่โฆษณาอยู่ในอินเตอร์เน็ต
(2) ธุรกิจกับธุรกิจหรือบีทูบี (B-to-B = Business-to-Business) คือ ประเภท ที่ธุรกิจกับธุรกิจติดต่อซื้อขายสินค้ากันผ่านอินเตอร์เน็ต
(3) ธุรกิจกับรัฐบาลหรือบีทูจี (B-to-G = Business-to-Government) คือประเภทที่ธุรกิจติดต่อกับหน่วยราชการ
(4) รัฐบาลกับรัฐบาลหรือจีทูจี (G-to-G = Government to Government) คือ ประเภทที่หน่วยงานรัฐบาลหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งติดต่อกับหน่วยงานรัฐบาลอีกหน่วยงานหนึ่ง
(5) ผู้บริโภคกับผู้บริโภคหรือซีทูซี (C-to-C = Consumer-to-Consumer) คือ ประเภทที่ผู้บริโภคประกาศขายสินค้าแล้วผู้บริโภคอีกรายหนึ่งก็ซื้อไป เช่น ที่อีเบย์ดอทคอม (Ebay.com) เป็นต้น ซึ่งผู้บริโภคสามารถจ่ายเงินให้กันทางบัตรเครดิตได้
กรอบแนวคิดของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
กรอบแนวคิดของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย 3 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
• แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
ข้อดี
• ประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อการเดินทางไปซื้อสินค้า เพียงแค่เลือกซื้อผ่านเว็บไซต์เท่านั้น
• ประหยัดเวลาในการติดต่อ แค่ใช้เวลาไม่นานแค่เพียงไม่กี่วินาทีเราก็สามารถติดต่อซื้อสินค้าได้
• การเปิดร้านค้าในอินเทอร์เน็ตเป็นการขยายตลาดสู่ทั่วโลก ไม่จำกัดเฉพาะแค่ในประเทศ และยังทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการได้เลือกซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น
• ผู้ขายสามารถเปิดร้านได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด และผู้บริโภคก็สามารถซื้อสินค้าได้ทุกวัน
ข้อเสีย
• ผู้ซื้ออาจไม่แน่ใจว่าสั่งซื้อแล้วจะได้รับสินค้าจริง หรือได้รับสินค้าที่ไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือสินค้าชำรุดเสียหายหรือสูญหาย
• สินค้าอาจเป็นสินค้าที่ไม่ผ่านการทดสอบ หรือสินค้าไม่มีคุณภาพ
• เสี่ยงต่อการถูกฉ้อโกง หรือถูกโกงราคาหรือถูกหลอกลวงได้ง่าย
• ข้อมูลสินค้าบางอย่างอาจมีการโอ้อวดคุณภาพสินค้าเกินจริง โดยที่เราไม่สามารถตรวจสอบได้
นาย ทินภัทร ชื่นบาน
สาขา วิทยาการคอมพิวเตอร์
รหัส 56122420113
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
ตอบ
ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์, โทรทัศน์, วิทยุ, หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้าเป็นต้น ดังนั้นจึงลดข้อจำกัดของระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้
ตัวอย่างเช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
2.ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ
2.1ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ
ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคลเช่น ไม่มั่นใจว่าจะมีผู้นำหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้ประโยชน์ในทางที่มิชอบหรือไม่
ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง จะเป็นบุคคลเดี่ยวกับที่แจ้งสั่งซื้อสินค้าหรือไม่ มีความสามารถในการที่จะจ่ายสินค้าและบริการหรือไม่
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ
ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้นธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
• ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com) เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไปและโดยบริษัทห้างร้าน องค์กรต่างๆในการจัดอันดับโดยเน็ตมาร์เก็ตติงไมโครซอฟต์ได้คะแนนร้อยละ 97 เท่ากับอเมริกัน เอ็กซ์เพรส นับได้ว่าเป็นที่สอง รองจากทรีคอม (3com) ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 98 เป็นที่หนึ่ง
แบบธุรกิจต่อผู้บริโภค
นางสาวจับจิต สำเภา รหัส 56191960124สาขาวิทยาศาสตร์ ค.บ. 5/1
เรียนวันพฤหัสบดี เวลา 11.20-15.30
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นาย สมภพ อุดหนุน 56191500104 เกษตรศาสตร์
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ การซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยส่งข้อมูลด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านทางเครือข่าย
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดค่าใช้จ่ายบุคลากรบางส่วน ลดขั้นตอนการประกอบธุรกิจ ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อแบบเดิม ๆ ไม่มีข้อจำกัดด้านสถานที่ สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วโลก
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ผู้ประกอบการ กับ ผู้บริโภค 2. ผู้ประกอบการ กับ ผู้ประกอบการ 3. ผู้บริโภค กับ ผู้บริโภค 4. ผู้ประกอบการ กับ ภาครัฐ 5. ภาครัฐ กับ ประชาชน
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products) เเละสินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระ
ตอบ 1. SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย
2.SET (Secure Electronic Transaction) ปัจจุบันมีใช้อยู่ใน 34 ประเทศซึ่งระบบนี้จะมีความปลอดภัยกว่าระบบแรกที่กล่าวมา ระบบ SETจะแตกต่างจากระบบ SSL ตรงที่ระบบ SETจะมีหน่วยงานกลางที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม(Certification Authority:
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัญหาที่เกิดกับงานด้านกฎหมายและลายเซ็น ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายเฉพาะที่จะกำกับดูแลการทำนิติกรรม การทำการซื้อขายผ่านทางการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ การทำธุรกรรมทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเริ่มต้นจากการสืบค้นข้อมูลและการโฆษณาสินค้า หรือบริการผ่านระบบ WWW. (World Wide Web) ถ้าต้องการจะซื้อสินค้า หรือบริการก็จะดำเนินการในขั้นต่อไป คือ กระบวนการสั่งซื้อและการชำระเงินในระบบไร้กระดาษ โดยชำระเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือวิธีการอื่นๆ ที่ผู้ให้บริการมีให้เลือกขั้นตอนสุดท้ายคือการส่งมอบสินค้า
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
- ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com)เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แบบธุรกิจต่อผู้บริโภค
- แอมะซอน (www.amazon.com) เป็นบริษัทผู้ขายปลีกสินค้าผ่านเว็บไซต์ เริ่มจากการขายหนังสือ
จนเป็นร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แบบผู้บริโภคต่อผู้บริโภค
- อีเบย์ (www.ebay.com) แหล่งประมูลสินค้าออนไลน์ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
นายเจตริน ศรีสรรงาม สาขาภาษาอังกฤษ ค.บ.5/2 ห้อง1 55191020106
แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์, โทรทัศน์, วิทยุ, หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น
2 .ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ “ความเร็ว” ระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้
3. ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในการทำการค้านั้นต้องประกอบด้วยอย่างน้อย 2 ฝ่ายก็คือผู้ซื้อและผู้ขาย ออกเป็นประเภทหลักๆ ดังนี้
1. ผู้ประกอบการ กับ ผู้บริโภค (Business to Consumer - B2C)
2. ผู้ประกอบการ กับ ผู้ประกอบการ (Business to Business – B2B)
3. ผู้บริโภค กับ ผู้บริโภค (Consumer to Consumer - C2C)
4. ผู้ประกอบการ กับ ภาครัฐ (Business to Government – B2G
5. ภาครัฐ กับ ประชาชน (Government to Consumer -G2C)
3. การติดต่อระหว่างระบบคอมพิวเตอร์ด้วยกันเอง เป็นรูปแบบที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
ในการติดต่อทางธุรกิจ โดยการให้ระบบคอมพิวเตอร์ของทั้งสองฝ่ายทำการติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลโดยอัตโนมัติ ตามข้อกำหนดที่ได้ทำการตกลงร่วมกันไว้ อาทิ อีดีไอ ระบบการจัดการห่วงโซ่การผลิต เป็นต้น
4.ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้ สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products) สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2.ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ประสบความสำเร็จ
ปัจจัยที่สำคัญ มาจากการทำการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมธุรกิจทั้งภายในและภายนอก จากนั้นทำการวิเคราะห์ผลลัพธ์แล้วค้นหาออกมา กับสภาพปัจจุบันของธุรกิจทำการค้นหาช่องว่างนั้นก็คือ ไอเดียกลยุทธ์ธุรกิจที่เอามาผสมผสานกัน
2.สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จ
. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่น หากไม่มีการวางแผนประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ
3. ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
2.การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน เพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
3.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยง สำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในปัจจุบันการชำระเงินยังต้องผ่านธนาคารที่เป็นของต่างประเทศ
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในยุคปัจจุบัน ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนิน กิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์, โทรทัศน์, วิทยุ, หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น
2 .ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ “ความเร็ว” ระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้
3. ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในการทำการค้านั้นต้องประกอบด้วยอย่างน้อย 2 ฝ่ายก็คือผู้ซื้อและผู้ขาย ออกเป็นประเภทหลักๆ ดังนี้
1. ผู้ประกอบการ กับ ผู้บริโภค (Business to Consumer - B2C)
2. ผู้ประกอบการ กับ ผู้ประกอบการ (Business to Business – B2B)
3. ผู้บริโภค กับ ผู้บริโภค (Consumer to Consumer - C2C)
4. ผู้ประกอบการ กับ ภาครัฐ (Business to Government – B2G
5. ภาครัฐ กับ ประชาชน (Government to Consumer -G2C)
3. การติดต่อระหว่างระบบคอมพิวเตอร์ด้วยกันเอง เป็นรูปแบบที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
ในการติดต่อทางธุรกิจ โดยการให้ระบบคอมพิวเตอร์ของทั้งสองฝ่ายทำการติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลโดยอัตโนมัติ ตามข้อกำหนดที่ได้ทำการตกลงร่วมกันไว้ อาทิ อีดีไอ ระบบการจัดการห่วงโซ่การผลิต เป็นต้น
4.ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้ สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products) สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2.ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ประสบความสำเร็จ
ปัจจัยที่สำคัญ มาจากการทำการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมธุรกิจทั้งภายในและภายนอก จากนั้นทำการวิเคราะห์ผลลัพธ์แล้วค้นหาออกมา กับสภาพปัจจุบันของธุรกิจทำการค้นหาช่องว่างนั้นก็คือ ไอเดียกลยุทธ์ธุรกิจที่เอามาผสมผสานกัน
2.สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จ
. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่น หากไม่มีการวางแผนประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ
3. ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
2.การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน เพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
3.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยง สำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในปัจจุบันการชำระเงินยังต้องผ่านธนาคารที่เป็นของต่างประเทศ
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในยุคปัจจุบัน ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนิน กิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์, โทรทัศน์, วิทยุ, หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น
2 .ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ “ความเร็ว” ระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้
3. ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในการทำการค้านั้นต้องประกอบด้วยอย่างน้อย 2 ฝ่ายก็คือผู้ซื้อและผู้ขาย ออกเป็นประเภทหลักๆ ดังนี้
1. ผู้ประกอบการ กับ ผู้บริโภค (Business to Consumer - B2C)
2. ผู้ประกอบการ กับ ผู้ประกอบการ (Business to Business – B2B)
3. ผู้บริโภค กับ ผู้บริโภค (Consumer to Consumer - C2C)
4. ผู้ประกอบการ กับ ภาครัฐ (Business to Government – B2G
5. ภาครัฐ กับ ประชาชน (Government to Consumer -G2C)
3. การติดต่อระหว่างระบบคอมพิวเตอร์ด้วยกันเอง เป็นรูปแบบที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
ในการติดต่อทางธุรกิจ โดยการให้ระบบคอมพิวเตอร์ของทั้งสองฝ่ายทำการติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลโดยอัตโนมัติ ตามข้อกำหนดที่ได้ทำการตกลงร่วมกันไว้ อาทิ อีดีไอ ระบบการจัดการห่วงโซ่การผลิต เป็นต้น
4.ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้ สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products) สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2.ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ประสบความสำเร็จ
ปัจจัยที่สำคัญ มาจากการทำการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมธุรกิจทั้งภายในและภายนอก จากนั้นทำการวิเคราะห์ผลลัพธ์แล้วค้นหาออกมา กับสภาพปัจจุบันของธุรกิจทำการค้นหาช่องว่างนั้นก็คือ ไอเดียกลยุทธ์ธุรกิจที่เอามาผสมผสานกัน
2.สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จ
. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่น หากไม่มีการวางแผนประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ
3. ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
2.การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน เพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
3.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยง สำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในปัจจุบันการชำระเงินยังต้องผ่านธนาคารที่เป็นของต่างประเทศ
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในยุคปัจจุบัน ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนิน กิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นาย ทินภัทร ชื่นบาน
สาขา วิทยาการคอมพิวเตอร์
รหัส 56122420113
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว
นายสานิตย์ ประจบดี 55122220142
สาขาเทคโนโลยีวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นาวสาวจิราภรณ์ สุวงษ์
พลศึกษา 55191890159
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
นางสาวณัฐกานต์ สังสมานันท์
พลศึกษา 55191890158
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลก ให้คำจำกัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”
ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ตอบ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ • สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ • แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
• ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ Hacker
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถของระบบ
Cracker
มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกรุกระบบเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำลายข้อมูลผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาว ปาริชาติ ชัยรังษี สาขาภาษาไทย ค.บ. 5/2 สาขาภาษาไทย รหัสนักศึกษา 55191010238
1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นาย ธนวัฒน์ ภาสดา
พลศึกษา หมู่ที่ 1
รหัส 55191890151
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นายมนูญ จันทร์หนองสรววง 56191470119
สาขาดนตรีศึกษา
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นายจตุรงค์ ผดุงรัตน์ 56191470117
สาขาดนตรีศึกษา
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นายปิชรวิทย์ วงศ์หินกอง 56191470118
สาขาดนตรีศึกษา
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน ซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้า
และจัดส่งสินค้า
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย 4 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
1.แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.ปัจจัยทางการบริหาร
3.โครงสร้างพื้นฐาน
4.ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.1พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) หมายถึง การดาเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ขณะนี้เป็นช่วงแห่งการส่งเสริม และสนับสนุนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย อีกวิธีหนึ่งที่เป็นการกระตุ้นความแพร่หลายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ใน ประเทศแบบอ้อม คือ การพัฒนาระบบของภาครัฐให้ทันสมัยมากขึ้น คือนำเอาสื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้มากขึ้น ดังจะเห็นได้จากโครงการ รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E-Commerce )
1. ธุรกิจกับธุรกิจ ( Business to Business : B to B )
2. ธุรกิจกับผู้บริโภค ( Business to Consumer : B to C
3. ธุรกิจกับรัฐบาล ( Business to Government : B to G )
4. ผู้บริโภคกับผู้บริโภค ( Consumer to Consumer : C to C )
5. รัฐบาลกับผู้บริโภค ( Government to Consumer : G to C )
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้การค้า e-Commerce ประสบผลสำเร็จ
การดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องมีปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ (ศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, 2544)
1. กล้าตัดสินใจ
2. หน้าที่หลักของท่า
3. โปรแกรมด้าน e-commerce
4. ใช้งบประมาณลงทุนน้อย
5. เร่งงานให้เสร็จตามกำหนด
2.2 ปัจจัยที่ทำให้การค้า e-Commerce ไม่ประสบผลสำเร็จ
ในการประกอบธุรกิจแบบ e-commerce นั้นมีทั้งประสบผลสำเร็จ และล้มเหลว ในที่นี้จะกล่าวถึงเว็บที่ไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งมีสาเหตุมาจาก (ศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, 2544)
1. การลอกเลียนแบบ
2. การอยู่กับความฝัน
3. ทำเว็บไซต์ที่วิจิตรสวยงาม
4. ทำเว็บไซต์แบบไร้
5. ไม่มีระบบสนับสนุนพื้นฐานที่เพียงพอ
6. ทำงานได้ทีละอย่าง
7. คิดเล็กเกินไป
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer)
2.SET (Secure Electronic Transaction)
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่านเพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนเพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในปัจจุบันการชำระเงินยังต้องผ่านธนาคารที่เป็นของต่างประเทศ
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง จึงทำให้ชนบทที่ห่างไกลไม่สามารถเข้าถึงและใช้บริการ Internet ได้
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เทคโนโลยีสารสนเทศที่รุดหน้า ทั้งระบบโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต ทำให้การสื่อสารกันเป็นไปได้โดยง่าย และสามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถโต้ตอบกันได้ทันที ทำให้สามารถเสนอธุรกรรมที่หลากหลาย เช่น การชื้อขาย การบริการหลังการขาย การโอนเงินชำระค่าบริการสินค้า การขนส่ง เป็นต้น โดยมีกฎหมายธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาคุ้มครองเรื่องความปลอดภัย
นางสาวนุสรา วันดี 55128040203 หมู่2 รปศ.(การปกครองท้องถิ่น)
1.ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์, โทรทัศน์, วิทยุ, หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ต เป็นต้น
2 .ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ “ความเร็ว” ระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้
3. ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในการทำการค้านั้นต้องประกอบด้วยอย่างน้อย 2 ฝ่ายก็คือผู้ซื้อและผู้ขาย ออกเป็นประเภทหลักๆ ดังนี้
1. ผู้ประกอบการ กับ ผู้บริโภค (Business to Consumer - B2C)
2. ผู้ประกอบการ กับ ผู้ประกอบการ (Business to Business – B2B)
3. ผู้บริโภค กับ ผู้บริโภค (Consumer to Consumer - C2C)
4. ผู้ประกอบการ กับ ภาครัฐ (Business to Government – B2G
5. ภาครัฐ กับ ประชาชน (Government to Consumer -G2C)
3. การติดต่อระหว่างระบบคอมพิวเตอร์ด้วยกันเอง เป็นรูปแบบที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
ในการติดต่อทางธุรกิจ โดยการให้ระบบคอมพิวเตอร์ของทั้งสองฝ่ายทำการติดต่อสื่อสาร แลกเปลี่ยนข้อมูลโดยอัตโนมัติ ตามข้อกำหนดที่ได้ทำการตกลงร่วมกันไว้ อาทิ อีดีไอ ระบบการจัดการห่วงโซ่การผลิต เป็นต้น
4.ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้ สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products) สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2.ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ประสบความสำเร็จ
ปัจจัยที่สำคัญ มาจากการทำการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมธุรกิจทั้งภายในและภายนอก จากนั้นทำการวิเคราะห์ผลลัพธ์แล้วค้นหาออกมา กับสภาพปัจจุบันของธุรกิจทำการค้นหาช่องว่างนั้นก็คือ ไอเดียกลยุทธ์ธุรกิจที่เอามาผสมผสานกัน
2.สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จ
. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่น หากไม่มีการวางแผนประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ
3. ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
2.การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน เพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
3.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยง สำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในปัจจุบันการชำระเงินยังต้องผ่านธนาคารที่เป็นของต่างประเทศ
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในยุคปัจจุบัน ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนิน กิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน ซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้า
และจัดส่งสินค้า
นางสาวราตรี เนียยมูล 55191600214
นางสาววิชญาพร แสงสว่าง 55191600217
นายสุทธิศักดิ์ เสียงเพราะ 55191600230
นางสาวศิริลักษณ์ ดาวไสย์ 55191600223
นางสาวศิวิมล เรืองฉาย 55191600224
สาขาคหกรรมศาสตร์ หมู่2
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
ชัยรัตน์ บุญมาก พลศึษา55191890134
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวภรณ์ทิพย์ อินทร์เพ็ง 56191600207
สาขาคหกรรมศาสตร์ คบ.5/2
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
นางสาวทิพรัตน์ แสวงมี
สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์
รหัส 56122420108
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นาย ศิลปไทย ชูแก้ว
วิทยาการคอมพิวเตอร์
56122420111
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic commerce) หรือ อี-คอมเมิร์ช (E-Commerce) หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลก
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
มี3ประเภท
ตอบ - Business-to-Business (B2B) คือ การทำธุรกรรมระหว่างองค์กรธุรกิจด้วยกันเอง เพื่อการค้าขาย การจัดการ การผลิตหรือวัตถุดิบ เช่น การสั่งซื้อสินค้าสำหรับห้างสรรพสินค้าจากผู้ผลิต หรือการสั่งซื้อชิ้นส่วนที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม เป็นต้น
-Business-to-Consumer (B2C) คือ การทำธุรกรรมระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภคโดยตรง เป็นการซื้อขายตามปกติ เพียงแต่ใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามาแทน เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการทุกประเภทสามารถเริ่มหรือขยายฐานธุรกิจได้อย่างกว้างขวางทั่วโลก
-Business-to-Government (B2G) คือ การทำธุรกรรมระหว่างภาคธุรกิจกับภาครัฐ ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่รัฐบาลมีการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้อย่างแพร่หลาย
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. I = Information “ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
2. C = Choice “ถ้าคุณมีของให้เลือกได้มาก ลูกค้าของคุณก็จะมากไปด้วย”
3. C = Convenience “บางทีลูกค้าซื้อคุณ เพราะคุณให้ความสะดวกสบายได้มากกว่า”
4. C = Customization “ชนะใจลูกค้าด้วยสินค้าตามสั่ง”
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ สินค้าไม่เป็นที่ต้องการของผู้รับบริการ
ส่งสินค้าไม่ตรงเวลา
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ การตรวจสอบอีเมล์สมาชิก' ที่อยู่.
รับเฉพาะ รหัสผ่านที่แข็งแรง.
มีการออกใบรับรองสำเนา มีการตรวจสอบเอกสารและสำเนาที่ถูกต้อง(SSL)ซึ่งจะปรากฏอย่างชัดเจนในเบราว์เซอร์ของคุณ -- เว็บไซต์
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์
อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ปัญหาความมั่นคงปลอดภัย (Security) เช่น การเจาะระบบ หรือแอบฝัง Spyware เพื่อขโมยข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น
2. ปัญหาการละเมิดความเป็นส่วนตัวสำหรับข้อมูลส่วนบุคคล ( Personal Lnformation ) เช่น การเอาข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบ
3. ปัญหาความเชื่อถือของผู้ประกอบธุรกิจ การบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ ( Merchant Reliability ) เช่น ความไม่มีตัวตนของผู้ประกอบธุรกิจ การโฆษณาสินค้าหรือบริการเกินจริง ซื้อสินค้าแล้วไม่ได้ของ
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ( Critical Success Factors : CSFs ) หมายถึง ปัจจัยสำคัญในแต่ละด้านที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น ปัจจัยสำคัญด้านเทคโนโลยี คือ ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ หรือปัจจัยสำคัญด้านธุรกิจ คือ คุณค่าของสินค้าและบริการที่องค์กรจะนำเสนอแก่ลูกค้า
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
- ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com)
เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
และโดยบริษัทห้างร้าน องค์กรต่างๆ
ในการจัดอันดับโดยเน็ตมาร์เก็ตติง
ไมโครซอฟต์ได้คะแนนร้อยละ 97
เท่ากับอเมริกัน เอ็กซ์เพรส
นับได้ว่าเป็นที่สอง รองจากทรีคอม (3com)
ซึ่งได้คะแนนร้อยละ 98 เป็นที่หนึ่ง
ข้อดีของอีคอมเมิร์ซ
การสั่งสินค้าง่ายและเร็วทันใจ
ราคาอาจต่ำกว่าการซื้อขายแบบธรรมดา
การให้บริการและส่งสินค้าที่รวดเร็ว
นางสาวรุ่งนภา งามประจบ
รหัส 55128040240
รปศ(การปกครองท้องถิ่น)
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ -->>การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> 1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> - ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
- ธุรกิจและลูกค้า
- ธุรกิจกับรัฐบาล
- ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
- สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
- สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ --->>1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ
2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ--->> 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
5. ไม่กำหนดตลาด
6. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ--->> ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> 1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวสลิลทิพย์ พิมศร
รหัส 56122420123 วท.บ 4/1
วิทยาการคอมพิวเตอร์
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวผกาวดี อยู่เย็น 55191600203
สาขา คหกรรมศาสตร์ หมู่ 2
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวผกาวดี อยู่เย็น 55191600203
สาขา คหกรรมศาสตร์ หมู่ 2
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวผกาวดี อยู่เย็น 55191600203
สาขา คหกรรมศาสตร์ หมู่ 2
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวผกาวดี อยู่เย็น 55191600203
สาขา คหกรรมศาสตร์ หมู่ 2
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ 1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เน็ต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ
คือ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวปรียาภรณ์ หนองบัว รหัสนักศึกษา 56191860103 สาขาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นายนีรนาท ส้มสาย วิทยาการคอมพิวเตอร์ 56122420103
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ 1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เน็ต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ
คือ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวปรียาภรณ์ หนองบัว รหัสนักศึกษา 56191860103 สาขาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์
กล่าวว่าพาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การวางแผนธุระกิจที่มีประสิทธิภาพ
2.การสร้างจุดเด่นของธุระกิจ
3.การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ
4.การสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี
5.การวางแผนทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การขาดการวางแผนที่ดีพอ
2.การนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน
3.การขาดการจัดการหรือสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
4.ใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป (Schedule overruns)
5.นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์มาใช้งาน (New or unproven technology)
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การเข้ารหัสของ SSL นั้นมีได้ 2 แบบ คือ
1. การเข้ารหัสแบบ 40 bits
2. การเข้ารหัสแบบ 128 bits
2.SET (Secure Electronic Transaction) ปัจจุบันมีใช้อยู่ใน 34 ประเทศซึ่งระบบนี้จะมีความปลอดภัยกว่าระบบแรกที่กล่าวมา ระบบ SETจะแตกต่างจากระบบ SSL ตรงที่ระบบ SETจะมีหน่วยงานกลางที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม(Certification Authority: CA) ระบบ SETจะมีความปลอดภัยและไว้วางใจได้ 3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร 4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การวางแผนธุระกิจที่มีประสิทธิภาพ
2.การสร้างจุดเด่นของธุระกิจ
3.การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ
4.การสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี
5.การวางแผนทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การขาดการวางแผนที่ดีพอ
2.การนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน
3.การขาดการจัดการหรือสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
4.ใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป (Schedule overruns)
5.นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์มาใช้งาน (New or unproven technology)
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การเข้ารหัสของ SSL นั้นมีได้ 2 แบบ คือ
1. การเข้ารหัสแบบ 40 bits
2. การเข้ารหัสแบบ 128 bits
2.SET (Secure Electronic Transaction) ปัจจุบันมีใช้อยู่ใน 34 ประเทศซึ่งระบบนี้จะมีความปลอดภัยกว่าระบบแรกที่กล่าวมา ระบบ SETจะแตกต่างจากระบบ SSL ตรงที่ระบบ SETจะมีหน่วยงานกลางที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม(Certification Authority: CA) ระบบ SETจะมีความปลอดภัยและไว้วางใจได้ 3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร 4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การวางแผนธุระกิจที่มีประสิทธิภาพ
2.การสร้างจุดเด่นของธุระกิจ
3.การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ
4.การสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี
5.การวางแผนทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การขาดการวางแผนที่ดีพอ
2.การนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน
3.การขาดการจัดการหรือสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
4.ใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป (Schedule overruns)
5.นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์มาใช้งาน (New or unproven technology)
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การเข้ารหัสของ SSL นั้นมีได้ 2 แบบ คือ
1. การเข้ารหัสแบบ 40 bits
2. การเข้ารหัสแบบ 128 bits
2.SET (Secure Electronic Transaction) ปัจจุบันมีใช้อยู่ใน 34 ประเทศซึ่งระบบนี้จะมีความปลอดภัยกว่าระบบแรกที่กล่าวมา ระบบ SETจะแตกต่างจากระบบ SSL ตรงที่ระบบ SETจะมีหน่วยงานกลางที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม(Certification Authority: CA) ระบบ SETจะมีความปลอดภัยและไว้วางใจได้ 3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร 4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวสร้อยสุดา อินทร์หอม 55122220140
วิศวกรรมโยธาและสถาปัตย์
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวกาญจนา คิดดีจริง สาขาเทคโนโลยีวิศวกรรมโยธาและสถาปัตยกรรม รหัสประจำตัว 55162220101
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลก ให้คำจำกัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”
ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ตอบ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ • สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ • แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
• ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ Hacker
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถของระบบ
Cracker
มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกรุกระบบเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำลายข้อมูลผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นายอานันท์ ทองมนต์
56191440310 ค.บ.คอมพิวเตอร์
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาววรรณิษา เงินราช รปศ.หมู่ 2 55128040246
. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวผกาวดี อยู่เย็น เลขที่4
สาขา คหกรรมศาสตร์ หมู่ 2
1.ชื่อระบบสารสนเทศ : ระบบเอทีเอ็ม
2.ลักษณะงาน : ATM เป็นมาตรฐานรูปแบบการส่งข้อมูลความเร็วสูงที่ถูกพัฒนามาสำหรับงานที่ต้องการความเร็วในการส่งข้อมูลสูงมาก ๆ ข้อมูลที่ส่งในเครือข่าย ATM จะถูกแบ่งเป็นกลุ่มย่อยเล็ก ๆ เรียกว่า เซลล์ (Cell) ซึ่งมีขนาด 53 byte ประกอบด้วยส่วนข้อมูล (payload) ขนาด 48 byte และส่วนหัว (header) ขนาด 5 byte ส่วนหัวจะเก็บข้อมูลที่จำเป็น ต่าง ๆ ที่ใช้ในการควบคุมการส่ง เช่น จุดหมายปลายทาง ระดับความสำคัญของ cell นั้น โดยจะ ประกอบด้วย VPI (Virtual Path Identifier) และ VCI (Virtual Circuit Identifier) ทำหน้าที่กำหนดวงจรเสมือน (virtual circuit) ในการเดินทางให้กับเซลล์นั้น และ HEC (Header Error Check) ทำหน้าที่ตรวจสอบ cell ที่ไม่สอดคล้องตามที่ระบุในส่วนหัว สวิตซ์ ATM จะทำหน้าที่ในการมัลติเพลกซ์และจัดการส่งข้อมูลนั้นตามที่กำหนดไว้ในส่วนหัวไปสู่ปลายทาง เมื่อข้อมูลของผู้ใช้เข้ามา จะถูกตัดแบ่งย่อยเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 48 byte และเติมส่วนหัวเข้าไป อีก 5 byte แล้วจึงส่งไปตามเส้นทางต่าง ๆ ในเครือข่าย ATM ซึ่งระบุไว้โดยส่วนหัว เมื่อถึงปลาย ทางแล้วก็จะเอาส่วนหัวออก แล้วประกอบกันเป็นข้อมูลชิ้นใหญ่เหมือนเดิม ลักษณะของ ATM นี้จะคล้ายกับ packet-switching network อื่นๆ ที่มีอยู่ เช่น x.25 หรือ frame relay แต่ต่างกันที่ ATM จะมีขนาด packet เล็กและคงที่
3. มีประโยชน์ต่อหน่วยงานอย่างไร : 1. ATM ถูกพัฒนาให้เป็นมาตรฐานกลางของการสื่อสารทั่วโลก อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถทำงาน ร่วมกันได้ถึงแม้จะต่างชนิดกัน โดยใช้มาตรฐานเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นยี่ห้อหนึ่งยี่ห้อใด กล่าวคือ เป็นมาตรฐานกลางที่ร่วมกันกำหนดขึ้นเพื่อให้ใช้ประโยชน์ได้ร่วมกัน
2. ATM ถูกพัฒนาเพื่อการส่งข้อมูล สำหรับทั้งเครือข่ายภายในระยะใกล้ (LAN : Local Area Network) และ ระยะไกล (Wide Area Network : WAN) แต่เดิมนั้นรูปแบบของการส่งข้อมูลใน LAN และ WAN จะแตกต่างกัน ซึ่งสร้างความยุ่งยากในการเชื่อมต่อและบริหารเครือข่าย แต่ ATM จะผนวกทั้ง LAN และ WAN เข้าเป็นเครือข่ายใหญ่ที่มีมาตรฐานเดียว
3. ATM ถูกพัฒนาให้ใช้กับข้อมูลทุกรูปแบบ แต่เดิมนั้นข้อมูลแต่ละรูปแบบไดเแก่ สัญญาณเสียง (voice) ข้อมูล (data) และภาพเคลื่อนไหว (video) ต่างก็มีเครือข่ายของตนเอง โดยสัญญาณเสียงที่ใช้ในเครือข่ายโทรศัพท์จะมีลักษณะที่มีอัตราการส่งข้อมูลคง ที่เท่า ๆ กันตลอดเวลา ข้อมูลเสียงอาจยอมให้มีการสูญเสีย (error) ได้บ้าง แต่จะต้อง ให้มีการหน่วงเวลา (delay) น้อยที่สุด ส่วนข้อมูลของคอมพิวเตอร์ (data) ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จะมีอัตราการส่งข้อมูลไม่คงที่ มีลักษณะเป็น bursty คือ บางเวลาจะมีข้อัมูลมากเป็นกลุ่มก้อน แต่บางเวลาก์ไม่มีข้อมูลเข้ามาเลย ลักษณะนี้เรายอมให้มีการหน่วงเวลาได้บ้าง แต่จะให้มีการสูญเสีย (error) ให้น้อย ที่สุด จะเห็นว่าข้อมูลต่างลักษณะกัน ต้องการคุณภาพในกรส่งที่ต่างประเด็นกัน สำหรับ ATM เราไม่จำเป็นต้องแยกเครือข่ายสำหรับข้อมูลเหล่านี้ เนื่องจากมันถูกออก แบบมาเพื่อใช้กับข้อมูลทุกรูปแบบทั้งเสียง (voice), ข้อมูล (data) และ วิดีโอ (video) นั่นเอง
4.เกี่ยวข้องกับนักศึกษาอย่างไร : ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการ ถอนเงิน โอนเงิน เช็กยอดเงิน ชำระค่าบริการต่างๆ ไม่เสียเวลาในการเดินทางไปธนาคาร เพราะมีอยู่ทั่วทุกพื้นที่
นาย ณัฐพล วรรณโพธิ์
สาขา วิทยาการคอมพิวเตอร์
5612240107
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
วิทวัตร ตุพิมาย 55162220113 โยธาสถาปัตยกรรม
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวนลิตา คำโฮม 54191700212 สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่2 ปี3
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวนลิตา คำโฮม 54191700212 สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่2 ปี3
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นาวสาวหทัย แอมภารัมย์ คบ 5/2 ภาษาไทยหมู่1 รหัส 55191010155
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
ชือนาย ปิยภูมิ สมเสร็จ
รหัส 56191500102
คบ.เกษตรศาสตร์
1.1พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
1.2ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
2.ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
3.ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government : B2G) หมายถึงธุรกิจการบริหารการค้าของประเทศ เพื่อเน้นการบริหารการจัดการที่ดีของรัฐบาล
4.ผู้บริโภคกับผู้บริโภค (Consumer to Consumer : C2C) หมายถึงธุรกิจระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นการค้ารายย่อย อาทิ การขายของเก่าให้กับบุคคลอื่นๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
1.3ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. เป็นการค้าที่ไร้พรมแดน ไม่มีการแบ่งทวีปหรือประเทศ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องระยะทาง และการเดินทาง ท่านสามารถที่จะซื้อสินค้าจากร้านหนึ่ง และเดินทางไปซื้อสินค้าจากร้านอีกร้านหนึ่งซึ่งอยู่คนละทวีปกันได้ ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ การติดต่อซื้อขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business) เช่น ระหว่างผู้ผลิตกับ ผู้จัดจำหน่าย (ตัวแทนจำหน่ายและพ่อค้าส่ง) หรือระหว่างผู้จัดจำหน่ายกับผู้ค้าปลีก เป็นต้น
2.1ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
ก่อนหน้านี้ ลูกค้าจะรู้จักคุณและสินค้าคุณจากแคตตาล็อก แต่ยิ่งมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แคตตาล็อกก็มีโอกาสที่จะถูกทิ้งลงถังขยะได้มากขึ้นเท่านั้น ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อย่างคุ้นเคย ดังนั้นการใช้เว็บไซต์จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก สำหรับกุญแจความสำเร็จของธุรกิจในการใช้กลยุทธ์ข้อนี้
2.2ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
สาเหตุที่ E-commerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งเป็นลักษณะนิสัยของคนไทย ชอบเห็นสิ่งของก่อน แล้วค่อยซื้อ และยังร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ที่ทำให้สามารถออกไป ช๊อปปิ้ง ด้วยการเดินทางที่ใช้ระยะเวลาไม่นาน ไม่เหมือนต่างประเทศ ที่ห้างร้าน อยู่ไกลกันมาก การซื้อสินค้าออนไลน์ จึงสะดวกกว่า การเดินทางไปซื้อด้วยตัวเอง และความสะดวกสบาย
2.3ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต ยิ่งไปกว่านั้นทางธนาคารกสิกรไทย ยังได้รักษาข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าให้ปลอดภัยโดยมีการตรวจสอบยืนยันการเป็นเจ้าของบัตร
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อจำกัดในการใช้ E-Commerce
ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้ การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน เพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในยุคปัจจุบัน ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
5.ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
• ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com) เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
นาย ปิยภูมิ สมเสร็จ
รหัส56191500102
คบ.เกษตรศาสตร์
1.1พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
1.2ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
2.ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
3.ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government : B2G) หมายถึงธุรกิจการบริหารการค้าของประเทศ เพื่อเน้นการบริหารการจัดการที่ดีของรัฐบาล
4.ผู้บริโภคกับผู้บริโภค (Consumer to Consumer : C2C) หมายถึงธุรกิจระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นการค้ารายย่อย อาทิ การขายของเก่าให้กับบุคคลอื่นๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
1.3ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. เป็นการค้าที่ไร้พรมแดน ไม่มีการแบ่งทวีปหรือประเทศ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องระยะทาง และการเดินทาง ท่านสามารถที่จะซื้อสินค้าจากร้านหนึ่ง และเดินทางไปซื้อสินค้าจากร้านอีกร้านหนึ่งซึ่งอยู่คนละทวีปกันได้ ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ การติดต่อซื้อขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business) เช่น ระหว่างผู้ผลิตกับ ผู้จัดจำหน่าย (ตัวแทนจำหน่ายและพ่อค้าส่ง) หรือระหว่างผู้จัดจำหน่ายกับผู้ค้าปลีก เป็นต้น
2.1ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
ก่อนหน้านี้ ลูกค้าจะรู้จักคุณและสินค้าคุณจากแคตตาล็อก แต่ยิ่งมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แคตตาล็อกก็มีโอกาสที่จะถูกทิ้งลงถังขยะได้มากขึ้นเท่านั้น ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อย่างคุ้นเคย ดังนั้นการใช้เว็บไซต์จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก สำหรับกุญแจความสำเร็จของธุรกิจในการใช้กลยุทธ์ข้อนี้
2.2ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
สาเหตุที่ E-commerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งเป็นลักษณะนิสัยของคนไทย ชอบเห็นสิ่งของก่อน แล้วค่อยซื้อ และยังร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ที่ทำให้สามารถออกไป ช๊อปปิ้ง ด้วยการเดินทางที่ใช้ระยะเวลาไม่นาน ไม่เหมือนต่างประเทศ ที่ห้างร้าน อยู่ไกลกันมาก การซื้อสินค้าออนไลน์ จึงสะดวกกว่า การเดินทางไปซื้อด้วยตัวเอง และความสะดวกสบาย
2.3ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต ยิ่งไปกว่านั้นทางธนาคารกสิกรไทย ยังได้รักษาข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าให้ปลอดภัยโดยมีการตรวจสอบยืนยันการเป็นเจ้าของบัตร
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อจำกัดในการใช้ E-Commerce
ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้ การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน เพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในยุคปัจจุบัน ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
5.ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
• ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com) เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
นาย ปิยภูมิ สมเสร็จ
รหัส56191500102
คบ.เกษตรศาสตร์
1.1พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
1.2ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
2.ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
3.ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government : B2G) หมายถึงธุรกิจการบริหารการค้าของประเทศ เพื่อเน้นการบริหารการจัดการที่ดีของรัฐบาล
4.ผู้บริโภคกับผู้บริโภค (Consumer to Consumer : C2C) หมายถึงธุรกิจระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นการค้ารายย่อย อาทิ การขายของเก่าให้กับบุคคลอื่นๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
1.3ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. เป็นการค้าที่ไร้พรมแดน ไม่มีการแบ่งทวีปหรือประเทศ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องระยะทาง และการเดินทาง ท่านสามารถที่จะซื้อสินค้าจากร้านหนึ่ง และเดินทางไปซื้อสินค้าจากร้านอีกร้านหนึ่งซึ่งอยู่คนละทวีปกันได้ ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ การติดต่อซื้อขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business) เช่น ระหว่างผู้ผลิตกับ ผู้จัดจำหน่าย (ตัวแทนจำหน่ายและพ่อค้าส่ง) หรือระหว่างผู้จัดจำหน่ายกับผู้ค้าปลีก เป็นต้น
2.1ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
ก่อนหน้านี้ ลูกค้าจะรู้จักคุณและสินค้าคุณจากแคตตาล็อก แต่ยิ่งมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แคตตาล็อกก็มีโอกาสที่จะถูกทิ้งลงถังขยะได้มากขึ้นเท่านั้น ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อย่างคุ้นเคย ดังนั้นการใช้เว็บไซต์จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก สำหรับกุญแจความสำเร็จของธุรกิจในการใช้กลยุทธ์ข้อนี้
2.2ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
สาเหตุที่ E-commerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งเป็นลักษณะนิสัยของคนไทย ชอบเห็นสิ่งของก่อน แล้วค่อยซื้อ และยังร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ที่ทำให้สามารถออกไป ช๊อปปิ้ง ด้วยการเดินทางที่ใช้ระยะเวลาไม่นาน ไม่เหมือนต่างประเทศ ที่ห้างร้าน อยู่ไกลกันมาก การซื้อสินค้าออนไลน์ จึงสะดวกกว่า การเดินทางไปซื้อด้วยตัวเอง และความสะดวกสบาย
2.3ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต ยิ่งไปกว่านั้นทางธนาคารกสิกรไทย ยังได้รักษาข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าให้ปลอดภัยโดยมีการตรวจสอบยืนยันการเป็นเจ้าของบัตร
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อจำกัดในการใช้ E-Commerce
ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้ การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน เพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในยุคปัจจุบัน ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
5.ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
• ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com) เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
นาย ปิยภูมิ สมเสร็จ
รหัส56191500102
คบ.เกษตรศาสตร์
1.1พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
1.2ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
2.ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
3.ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government : B2G) หมายถึงธุรกิจการบริหารการค้าของประเทศ เพื่อเน้นการบริหารการจัดการที่ดีของรัฐบาล
4.ผู้บริโภคกับผู้บริโภค (Consumer to Consumer : C2C) หมายถึงธุรกิจระหว่างผู้บริโภคกับผู้บริโภค ซึ่งเป็นการค้ารายย่อย อาทิ การขายของเก่าให้กับบุคคลอื่นๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต
1.3ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. เป็นการค้าที่ไร้พรมแดน ไม่มีการแบ่งทวีปหรือประเทศ ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องระยะทาง และการเดินทาง ท่านสามารถที่จะซื้อสินค้าจากร้านหนึ่ง และเดินทางไปซื้อสินค้าจากร้านอีกร้านหนึ่งซึ่งอยู่คนละทวีปกันได้ ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ การติดต่อซื้อขายระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business) เช่น ระหว่างผู้ผลิตกับ ผู้จัดจำหน่าย (ตัวแทนจำหน่ายและพ่อค้าส่ง) หรือระหว่างผู้จัดจำหน่ายกับผู้ค้าปลีก เป็นต้น
2.1ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น”
ก่อนหน้านี้ ลูกค้าจะรู้จักคุณและสินค้าคุณจากแคตตาล็อก แต่ยิ่งมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แคตตาล็อกก็มีโอกาสที่จะถูกทิ้งลงถังขยะได้มากขึ้นเท่านั้น ปัจจุบันผู้บริโภคสามารถใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้อย่างคุ้นเคย ดังนั้นการใช้เว็บไซต์จึงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปนัก สำหรับกุญแจความสำเร็จของธุรกิจในการใช้กลยุทธ์ข้อนี้
2.2ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
สาเหตุที่ E-commerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จส่วนหนึ่งเป็นลักษณะนิสัยของคนไทย ชอบเห็นสิ่งของก่อน แล้วค่อยซื้อ และยังร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน ที่ทำให้สามารถออกไป ช๊อปปิ้ง ด้วยการเดินทางที่ใช้ระยะเวลาไม่นาน ไม่เหมือนต่างประเทศ ที่ห้างร้าน อยู่ไกลกันมาก การซื้อสินค้าออนไลน์ จึงสะดวกกว่า การเดินทางไปซื้อด้วยตัวเอง และความสะดวกสบาย
2.3ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต ยิ่งไปกว่านั้นทางธนาคารกสิกรไทย ยังได้รักษาข้อมูลบัตรเครดิตของลูกค้าให้ปลอดภัยโดยมีการตรวจสอบยืนยันการเป็นเจ้าของบัตร
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อจำกัดในการใช้ E-Commerce
ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้ การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน เพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ในยุคปัจจุบัน ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ซึ่งมีผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
5.ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
ตัวอย่างเว็บอีคอมเมิร์ซ
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
• ไมโครซอฟต์ (www.microsoft.com) เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ผลิตซอฟต์แวร์ทั้งสำหรับบุคคลทั่วไป
นาย ปิยภูมิ สมเสร็จ
รหัส56191500102
คบ.เกษตรศาสตร์
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวสาวินี เปรียบสนาดี 56122420126 สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นายสมเกียรติ ปลากระโทก 56122420121 วิทยาการคอมพิวเตอร์
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
ชื่อนางสาวนฤมล เรืองสุขสุด สาขาฟิสิกส์ ระดับ 5/1 รหะัสนักศึกษา 56191430126
ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า
รับเงินชำระค่า
สินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวพิมลแข สุนเสียง รปศ. หมู่ 2 การปกครองท้องถิ่น 55128040220
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นายอดิศร แก้วเขียว ค.บ.คอมพิวเตอร์
56191440317
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นาย มนัส ยอดแก้ว รปศ 55128040228
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประกอบด้วย 4 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
1.แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.ปัจจัยทางการบริหาร
3.โครงสร้างพื้นฐาน
4.ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.1พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) หมายถึง การดาเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่านคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ขณะนี้เป็นช่วงแห่งการส่งเสริม และสนับสนุนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย อีกวิธีหนึ่งที่เป็นการกระตุ้นความแพร่หลายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ใน ประเทศแบบอ้อม คือ การพัฒนาระบบของภาครัฐให้ทันสมัยมากขึ้น คือนำเอาสื่ออิเล็กทรอนิกส์เข้ามาใช้มากขึ้น ดังจะเห็นได้จากโครงการ รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E-Commerce )
1. ธุรกิจกับธุรกิจ ( Business to Business : B to B )
2. ธุรกิจกับผู้บริโภค ( Business to Consumer : B to C
3. ธุรกิจกับรัฐบาล ( Business to Government : B to G )
4. ผู้บริโภคกับผู้บริโภค ( Consumer to Consumer : C to C )
5. รัฐบาลกับผู้บริโภค ( Government to Consumer : G to C )
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้การค้า e-Commerce ประสบผลสำเร็จ
การดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องมีปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้ (ศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, 2544)
1. กล้าตัดสินใจ
2. หน้าที่หลักของท่า
3. โปรแกรมด้าน e-commerce
4. ใช้งบประมาณลงทุนน้อย
5. เร่งงานให้เสร็จตามกำหนด
2.2 ปัจจัยที่ทำให้การค้า e-Commerce ไม่ประสบผลสำเร็จ
ในการประกอบธุรกิจแบบ e-commerce นั้นมีทั้งประสบผลสำเร็จ และล้มเหลว ในที่นี้จะกล่าวถึงเว็บที่ไม่ประสบผลสำเร็จ ซึ่งมีสาเหตุมาจาก (ศูนย์พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์, 2544)
1. การลอกเลียนแบบ
2. การอยู่กับความฝัน
3. ทำเว็บไซต์ที่วิจิตรสวยงาม
4. ทำเว็บไซต์แบบไร้
5. ไม่มีระบบสนับสนุนพื้นฐานที่เพียงพอ
6. ทำงานได้ทีละอย่าง
7. คิดเล็กเกินไป
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer)
2.SET (Secure Electronic Transaction)
3.ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่านเพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้การส่งข้อมูลจึงต้องมรการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอนเพื่อให้ข้อมูลของลูกค้าได้รับความปลอดภัยสูงสุด
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ ในปัจจุบันการชำระเงินยังต้องผ่านธนาคารที่เป็นของต่างประเทศ
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง จึงทำให้ชนบทที่ห่างไกลไม่สามารถเข้าถึงและใช้บริการ Internet ได้
4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เทคโนโลยีสารสนเทศที่รุดหน้า ทั้งระบบโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต ทำให้การสื่อสารกันเป็นไปได้โดยง่าย และสามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถโต้ตอบกันได้ทันที ทำให้สามารถเสนอธุรกรรมที่หลากหลาย เช่น การชื้อขาย การบริการหลังการขาย การโอนเงินชำระค่าบริการสินค้า การขนส่ง เป็นต้น โดยมีกฎหมายธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาคุ้มครองเรื่องความปลอดภัย
นายราเชนทร์ ไชยพันธ์ 55128040238 หมู่2 รปศ.(การปกครองท้องถิ่น)
ht1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวอรไท จันศร
รหัสนักศึกษา 54191700245
สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่ 2
1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
นาสาวอรไท จันศร
รหัสนักศึกษา 54191700245
สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวเนตรปรียา แก่นแก้ว 55128040144 รปศ.(การปกครองท้องถิ่น)หมู่2
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
นางสาวสุชาดา สศรีธาตุ การศึกษาปฐมวัย ค.บ.5/1
56191860132
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน ซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้า
และจัดส่งสินค้า นางสาว ทนิดา อรรคบาล รหัสนักศึกษา 56191430134 สาขา ฟิสิกส์
1. ตอบ
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
ความสำคัญของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ตอบ
มีดังนี้
I = Information
“ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น
C = Convenience
“บางทีลูกค้าซื้อคุณ เพราะคุณให้ความสะดวกสบายได้มากกว่า”
C = Customization
“ชนะใจลูกค้าด้วยสินค้าตามสั่ง”
C = Community
“สร้างบ้านให้ลูกค้าอยู่ สร้างประตูให้ลูกค้าเข้า”
S = Saving
“ลดต้นทุน เพิ่มส่วนลด”
E = Entertainment
“เพราะความสนุกที่ได้รับ ประทับใจให้ต้องซื้อ”
T = Trust
“ลูกค้าเชื่อใจ ไม่ซื้อคุณจะซื้อใคร?”
ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น ขาดรายละเอียดทั้งในเรื่องของวัสดุ
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่น หากไม่มีการวางแผนประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
5. ไม่กำหนดตลาด
6. การออกแบบ
ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
การควบคุมและรักษาความปลอดภัยสำหรับ E-commerce
รักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่ายองค์กร มี 2 วิธี ได้แก่
ควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพ (Physical Access Control)
ควบคุมการเข้าถึงทางตรรกะ (Logical Access Control)
ตรวจสอบการเข้าถึงเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต (Detecting Unauthorized Access)
ป้องกันภัยคุกคามจากไวรัส
การใช้นโยบายในการควบคุม (Policies)
การป้องกันภัยคุกคามในเครือข่ายไร้สาย (Wireless Security)
3. ตอบ
ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคลเช่น ไม่มั่นใจว่าจะมีผู้นำหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้ประโยชน์ในทางที่มิชอบหรือไม่
ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง จะเป็นบุคคลเดี่ยวกับที่แจ้งสั่งซื้อสินค้าหรือไม่ มีความสามารถในการที่จะจ่ายสินค้าและบริการหรือไม่
4. ตอบ
แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย
รัฐต้องมีการวางแผนระยะยาวเกี่ยวกับการใช้ระบบ E-Commerce ทั้งในเรื่องของการออกกฎหมายตามหลักสากลและกฎหมายข้างเคียง เช่น เรื่องภาษี สนับสนุนหรือเป็นตัวแทนดูแลการใช้มาตรฐานต่างๆ หน่วยงานที่เป็น Certification Authority (CA) ที่ทำการรับรอง Digital Signature
5 .ตอบ
เป็นเว็บไซต์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านดอกไม้ออนไลน์ บริการส่งดอกไม้ มีทั้งดอกไม้สด กระเช้าดอกไม้ แจกันดอกไม้
www.flowerclick.net
นางสาวจรีญา จงใจรักษ์ รหัส 56191500229 สาขา ค.บ.เกษตรศาตร์ 5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวจรีญา จงใจรักษ์ รหัส 56191500229 สาขา ค.บ.เกษตรศาสตร์ 5/1
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลก ให้คำจำกัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”
ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ตอบ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ • สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ • แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
• ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ Hacker
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถของระบบ
Cracker
มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกรุกระบบเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำลายข้อมูลผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวปวีณา แสนหยุด สาขาภาษาไทย ค.บ. 5/2 สาขาภาษาไทย รหัสนักศึกษา 55191010236
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้ การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มาก มายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นายจิรพงศ์ ทานงาม
56191500201 สาขา ค.บ.เกษตรศาสตร์
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
นางสาวอรสา ศรีล้ำ สาขาภาษาไทย
55191010157 ระดับ ค.บ. 5/1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า
รับเงินชำระค่า
สินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวนิลวรรณ เยาวลักษณื
สาขาอุตสาหกรรมศิลป์
54191700214
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลก ให้คำจำกัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”
ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ตอบ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ • สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ • แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
• ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ Hacker
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถของระบบ
Cracker
มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกรุกระบบเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำลายข้อมูลผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวกวินนา พันธ์พงษ์ รหัสนักศึกษา 55191010101 สาขาภาษาไทย หมู่ 1
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลก ให้คำจำกัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”
ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ตอบ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ • สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ • แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
• ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ Hacker
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถของระบบ
Cracker
มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกรุกระบบเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำลายข้อมูลผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวกวินนา พันธ์พงษ์ 55191010101
สาขาภาษาไทย หมู่ 1
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าแระจัดส่ง
นางสาวนิลวรรณ เยาลักษณ์
สาขาอุตสาหกรรมศิลป์ หมู่ 2
54191700214
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวนิลวรรณ เยาลักษณ์
สาขาอุตสาหกรรมศิลป์ หมู่ 2
54191700214
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
ความสำคัญของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลก
ประเภทของอีคอมเมิร์ซ
อีคอมเมิร์ซ 5 ประเภท ถ้าจะแบ่งอีคอมเมิร์ซเป็น 5 ประเภทก็ได้ดังต่อไปนี้
- (B-to-C = Business-to-Consumer) คือประเภทที่ผู้ซื้อปลีกใช้อินเตอร์เน็ตในการซื้อสินค้าจากธุรกิจที่โฆษณาอยู่ในอินเตอร์เน็ต
- (B-to-B = Business-to-Business) คือ ประเภท ที่ธุรกิจกับธุรกิจติดต่อซื้อขายสินค้ากันผ่านอินเตอร์เน็ต
- (B-to-G = Business-to-Government) คือประเภทที่ธุรกิจติดต่อกับหน่วยราชการ
- (G-to-G = Government to Government) คือ ประเภทที่หน่วยงานรัฐบาลหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งติดต่อกับหน่วยงานรัฐบาลอีกหน่วยงานหนึ่ง
- (C-to-C = Consumer-to-Consumer) คือ ประเภทที่ผู้บริโภคประกาศขายสินค้าแล้วผู้บริโภคอีกรายหนึ่งก็ซื้อไป เช่น ที่อีเบย์ดอทคอม (Ebay.com) เป็นต้น ซึ่งผู้บริโภคสามารถจ่ายเงินให้กันทางบัตรเครดิตได้
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
ปัจจัยที่ทำให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบความสำเร็จ
1.การวางแผนธุระกิจที่มีประสิทธิภาพ
2.การสร้างจุดเด่นของธุระกิจ
3.การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ
4.การสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี
5.การวางแผนทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
ปัจจัยที่ทำให้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบความล้มเหลว
1.การขาดการวางแผนที่ดีพอ
2.การนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน
3.การขาดการจัดการหรือสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
4.ใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป (Schedule overruns)
5.นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์มาใช้งาน (New or unproven technology)
ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
การตรวจสอบอีเมล์สมาชิก' ที่อยู่.รับเฉพาะ รหัสผ่านที่แข็งแรง.มีการออกใบรับรองสำเนา มีการตรวจสอบเอกสารและสำเนาที่ถูกต้อง(SSL)ซึ่งจะปรากฏอย่างชัดเจนในเบราว์เซอร์ของคุณ -- เว็บไซต์
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อจำกัดในการใช้ E-Commerce
1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2. ต้องมีการพัฒนาวิธีการเข้ารหัสที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน
3. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
4. E-Commerce ยังมีประเด็นเชิงนโยบายที่ทำให้รัฐบาลต้องเข้ามากำหนดมาตรการ เพื่อให้ความคุ้มครองกับผู้ซื้อและผู้ขาย ขณะเดียวกันมาตรการมนเรื่องระเบียบที่จะกำหนดขึ้นต้องไม่ขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยี
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ปัจจัยสู่ความสำเร็จ ( Critical Success Factors : CSFs ) หมายถึง ปัจจัยสำคัญในแต่ละด้านที่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ ยกตัวอย่างเช่น ปัจจัยสำคัญด้านเทคโนโลยี คือ ประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ใช้ หรือปัจจัยสำคัญด้านธุรกิจ คือ คุณค่าของสินค้าและบริการที่องค์กรจะนำเสนอแก่ลูกค้า
5. ตัวอย่างธุรกิจการค้าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
แบบธุรกิจต่อธุรกิจ
www.cisco.com เป็นบริษัทขายอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และอุปกรณ์ทางด้านเครือข่ายอื่นๆ โดยขายผ่านเว็บแบบธุรกิจต่อธุรกิจ ทำให้ยอดขายของซิสโคเพิ่มสูงขึ้นกว่าร้อยละ 20 ยอดขายของซิสโคได้มาจาก การใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางการสื่อสารของตลาดธุรกิจต่อธุรกิจร้อยละ 92 ของการสั่งซื้อสินค้าซิสโค เกิดจากการสั่งซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตและการบริการลูกค้ากว่าร้อยละ 80 มาจากการขอใช้บริการผ่านซิสโคออนไลน์
นางสาวกวินนา พันธ์พงษ์ 55191010101
สาขาภาษาไทย ระดับ ค.บ. 5/1
ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวมาริสา เรพล
รหัสนักศึกษา 54191700223
สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่ 2
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวมะลิ สำคัญยิ่ง หมู่เรียนที่ 1 รหัสนักศึกษา 55191010136 สาขาวิชาภาษาไทย ระดับ ค.บ. 5/2
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
1.4ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ลักษณะรูปแบบในการประกอบธุรกิจได้มีการพัฒนาขึ้น โดยมีการอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเป็นพื้นฐานในการสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ การทำธุรกิจในลักษณะของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์กำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ และเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้า และสร้างให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การวางแผนธุระกิจที่มีประสิทธิภาพ
2.การสร้างจุดเด่นของธุระกิจ
3.การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจ
4.การสัมพันธ์ลูกค้าที่ดี
5.การวางแผนทางการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1.การขาดการวางแผนที่ดีพอ
2.การนำเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสมมาใช้งาน
3.การขาดการจัดการหรือสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
4.ใช้เวลาในการดำเนินการมากเกินไป (Schedule overruns)
5.นำเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยหรือยังไม่ผ่านการพิสูจน์มาใช้งาน (New or unproven technology)
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ ระบบรักษาความปลอดภัยที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ระบบ คือ
1. SSL (Secure Socket Layer) เป็นระบบที่ใช้ในการสื่อสารข้อมูลกันระหว่าง Clientกับ Serverซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลที่ส่งไปหากันนั้นจะไม่มีการเข้ารหัสแต่อย่างใดทำให้การดักจับข้อมูลเป็นไปได้โดยง่าย แต่ถ้าเป็นระบบที่ใช้ SSLแล้วนั้นข้อมูลจาก Client ที่จะส่งไปยัง Serverนั้นจะถูกเข้ารหัสก่อนที่จะส่งไปที่ Serverทำให้ข้อมูลที่จะส่งถึงกันนั้นมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การเข้ารหัสของ SSL นั้นมีได้ 2 แบบ คือ
1. การเข้ารหัสแบบ 40 bits
2. การเข้ารหัสแบบ 128 bits
2.SET (Secure Electronic Transaction) ปัจจุบันมีใช้อยู่ใน 34 ประเทศซึ่งระบบนี้จะมีความปลอดภัยกว่าระบบแรกที่กล่าวมา ระบบ SETจะแตกต่างจากระบบ SSL ตรงที่ระบบ SETจะมีหน่วยงานกลางที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาเพื่อยืนยันการทำธุรกรรม(Certification Authority: CA) ระบบ SETจะมีความปลอดภัยและไว้วางใจได้ 3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1.ความไม่ปลอดภัยของข้อมูลขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ประเทศไทยยังไม่มีธนาคารพาณิชย์ที่จะทำหน้าที่รับประกันความเสี่ยงสำหรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
3.ปัญหาความยากจนความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยีรวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร 4.แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. แบบซื้อมา-ขายไป (e-business store font)
2. แบบสื่อกลางด้านข่าวสาร (infomediary)
3. แบบสื่อกลางด้านความไว้ใจ (trust intermediary)
4. แบบขายเครื่องมือในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-business enabler)
5. การให้บริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน (infrastructure providers)
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ตัวอย่าง เช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
นาสาวสุนิษา จูงงาม
รหัส 54191700239
สขา :อุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวสายฝน ไหมทอง
54191700234
สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลก ให้คำจำกัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”
ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ตอบ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ • สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ • แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
• ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ Hacker
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถของระบบ
Cracker
มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกรุกระบบเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำลายข้อมูลผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวมาริสา เรพล
รหัส 54191700223
สาขา อุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่ 2
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ -->>การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> 1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> - ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
- ธุรกิจและลูกค้า
- ธุรกิจกับรัฐบาล
- ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
- สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
- สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ --->>1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ
2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ--->> 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
5. ไม่กำหนดตลาด
6. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ--->> ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> 1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวสุนิษา จูงงาม
รหัส 54191700239
สาขา:อุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่ 2
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวมาริสา เรพล
รหัส 54191700223
สาขา อุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่ 2
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวทิวาภรณ์ กรมภักดี 54191700209 สาขาอุตสาหกรรมศฺิลป์และเทคโนโลยี หมู่2 ปี3
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวสุมาลี วันเพ็ญ
54191700242
สาขา อุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่ 2
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวจุฬาลักษณ์ ไชยสุระ
รหัสนักศึกษา 55191010223
สาขาภาษาไทย หมู่ 2
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวจุฬาลักษณ์ ไชยสุระ
รหัสนักศึกษา 55191010223
สาขาภาษาไทย หมู่2
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวจุฬาลักษณ์ ไชยสุระ
รหัสนักศึกษา 55191010223
สาขาภาษาไทย หมู่2
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวจุฬาลักษณ์ ไชยสุระ
รหัสนักศึกษา 55191010223
สาขาภาษาไทย หมู่ 2
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นายพัฒนพงศ์ พรหมบุตร 54191700221
สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่2ปี3
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นายสุริยา กัญญาพันธ์
54191700244
สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การดำเนินธุรกิจทุกรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสินค้าและบริการผ่าน และระบบสื่อสารโทรคมนาคมหรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์
องค์กรการค้าโลก ให้คำจำกัดความไว้ว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การผลิต การกระจาย การตลาด การขาย หรือการขนส่งผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว”
ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
ตอบ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ • สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ • แอพพลิเคชั่นของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
• ปัจจัยทางการบริหาร
• โครงสร้างพื้นฐาน
• ประเภทสินค้าของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น บางครั้งมีลูกค้าอีเมล์มาสอบถามเพิ่มเติม แต่บางเว็บไซต์ไม่ได้ตั้งบุคคลากรเพื่อดูแลปัญหานี้
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ Hacker
มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบขีดความสามารถของระบบ
Cracker
มีวัตถุประสงค์เพื่อบุกรุกระบบเพื่อขโมยข้อมูลหรือทำลายข้อมูลผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ 1. ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet
2.ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร เช่น ระบบเคเบิล ระบบโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพ ทำให้ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นช่องทางการค้าที่น่าสนใจมาก เพราะนับวันก็ยิ่งมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆซึ่งส่งผลให้การค้าทางอินเตอร์เน็ตขยายตัวได้อย่าง รวดเร็วและการทำธุรกิจบนเว็บไซต์นั้นสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้มากมายหลายประการ
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ www.tarad.com เป็นเว็บไซต์ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายสินค้าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แฟชั่น ฯลฯ เป็นต้น
นางสาวอรสา ศรีล้ำ สาขาภาษาไทย
55191010147 ระดับ ค.บ. 5/1
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทุกรูปแบบโดยครอบคลุมถึงการซื้อขายสินค้า/บริการ การชำระเงิน การโฆษณาโดยผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ประเภทต่าง ๆ โดยเฉพาะเครือข่ายทางอินเทอร์เน็ต
ความสำคัญของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
2. ตอบ
มีดังนี้
I = Information
“ยิ่งลูกค้ารู้จักสินค้าคุณมากเท่าไหร่ เขาก็มีโอกาสซื้อคุณมากเท่านั้น
C = Convenience
“บางทีลูกค้าซื้อคุณ เพราะคุณให้ความสะดวกสบายได้มากกว่า”
C = Customization
“ชนะใจลูกค้าด้วยสินค้าตามสั่ง”
C = Community
“สร้างบ้านให้ลูกค้าอยู่ สร้างประตูให้ลูกค้าเข้า”
S = Saving
“ลดต้นทุน เพิ่มส่วนลด”
E = Entertainment
“เพราะความสนุกที่ได้รับ ประทับใจให้ต้องซื้อ”
T = Trust
“ลูกค้าเชื่อใจ ไม่ซื้อคุณจะซื้อใคร?”
ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
บางครั้งแค่ใส่ขนาดกับราคาเพียงเท่านั้น ขาดรายละเอียดทั้งในเรื่องของวัสดุ
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ การมีเว็บไซต์เป็นเสมือนการเปิดร้านแห่งหนึ่งขึ้นบนโลกไซเบอร์ ซึ่งวันหนึ่งๆ มีเว็บเกิดขึ้นเป็นหมื่น หากไม่มีการวางแผนประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จัก
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
5. ไม่กำหนดตลาด
6. การออกแบบ
ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
การควบคุมและรักษาความปลอดภัยสำหรับ E-commerce
รักษาความปลอดภัยให้กับเครือข่ายองค์กร มี 2 วิธี ได้แก่
ควบคุมการเข้าถึงทางกายภาพ (Physical Access Control)
ควบคุมการเข้าถึงทางตรรกะ (Logical Access Control)
ตรวจสอบการเข้าถึงเครือข่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต (Detecting Unauthorized Access)
ป้องกันภัยคุกคามจากไวรัส
การใช้นโยบายในการควบคุม (Policies)
การป้องกันภัยคุกคามในเครือข่ายไร้สาย (Wireless Security)
3. ตอบ
ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคลเช่น ไม่มั่นใจว่าจะมีผู้นำหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้ประโยชน์ในทางที่มิชอบหรือไม่
ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง จะเป็นบุคคลเดี่ยวกับที่แจ้งสั่งซื้อสินค้าหรือไม่ มีความสามารถในการที่จะจ่ายสินค้าและบริการหรือไม่
4. ตอบ
แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย
รัฐต้องมีการวางแผนระยะยาวเกี่ยวกับการใช้ระบบ E-Commerce ทั้งในเรื่องของการออกกฎหมายตามหลักสากลและกฎหมายข้างเคียง เช่น เรื่องภาษี สนับสนุนหรือเป็นตัวแทนดูแลการใช้มาตรฐานต่างๆ หน่วยงานที่เป็น Certification Authority (CA) ที่ทำการรับรอง Digital Signature
5 .ตอบ
เป็นเว็บไซต์ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับร้านดอกไม้ออนไลน์ บริการส่งดอกไม้ มีทั้งดอกไม้สด กระเช้าดอกไม้ แจกันดอกไม้
www.flowerclick.net
นางสาววิภาวี มีชัย
รหัส54191700229
สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวอรอุมา ทรงวาจา
สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่ 2
รหัสนักศึกษา 54191700246
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวอรอุมา ทรงวาจา
สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่ 2
รหัสนักศึกษา 54191700246
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวสมพร ไชยรัมย์ 54191700233 สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่2 ปี3
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวขนิษฐา นิลแก้ว 54191700202 สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่2 ปี3
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวนวลปรางค์ ถือดียิ่ง 54191700213 สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่2 ปี3
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวสุวิภา อยู่สุข สาขาภาษาไทย ค.บ.5/2 หมู่เรียนที่1 รหัสนักศึกษา 55191010154
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวปองฤทัย สุวรรณลา 54191700216 สาขาอุตสาหกรรมศิลป์และเทคโนโลยี หมู่2 ปี3
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า
รับเงินชำระค่า
สินค้าและจัดส่งสินค้า
วรรธนธัช สุวงศ์ คบ. ฟิสิกส์ 56191430120
1.ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
นางสาววันเพ็ญ มาลาทอง หมู่ 2
คหกรรมศาสตร์
55191600220
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวจิรัฐกาล สามาลย์ สาขา ฟิสิกส์ รหัส 56191430135
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
นาย ประสิทธิ์ บุลา เอก คหกรรมศาสตร์ รหัส 55191600202
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
นาย ประสิทธิ์ บุลา เอก คหกรรมศาสตร์ รหัส 55191600202
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
นาย ประสิทธิ์ บุลา เอก คหกรรมศาสตร์ รหัส 55191600202
พาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง การทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เช่น การซื้อขายสินค้าและบริหาร การโฆษณาสินค้า การโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น จุดเด่นของ E-Commerce คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย และเพิ่ม ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ เนื่องมาจากอัตราการเติบโตของการใช้อินเตอร์เน็ตและการเพิ่มขึ้นของเว็บไซต์ทางธุรกิจที่มีอย่างต่อเนื่อง ทำให้การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจบนอินเตอร์เน็ตเป็นช่องทางการตลาดขนาดใหญ่ของโลกไร้พรมแดนที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้โดยตรงอย่างรวดเร็ว ไร้ขีดจำกัดของเรื่องเวลาและสถานที่ การแข่งขันทางการค้าเสรีและระหว่างประเทศที่ต้องแข่งขันและชิงความได้เปรียบกันที่ “ความเร็ว” ทั้งการนำเสนอสินค้าผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีความสำคัญอย่างยิ่งในสังคมเศรษฐกิจฐานความรู้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และได้รับความนิยมเพิ่มขันเป็นลำดับ
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มี 4 ประเภทหลัก ๆ คือ
• ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า (Business to Consumers หรือ B to C))
• ธุรกิจกับรัฐบาล (Business to Government หรือ B to G)
• ลูกค้ากับลูกค้า (Consumers to Consumers หรือ C to C)
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
1. สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (digital products) เป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ (intangible
goods) เช่น ซอฟต์แวร์ เพลง ภาพยนตร์ เป็นต้น
2. สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (non-digital products) เป็นสินค้าที่สามารถจับต้องได้ (tangible
goods)
3. สินค้าบริการ ได้แก่ การท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร บริการรถเช่า บริการทัวร์และจองตั๋ว
เครื่องบิน บริการฝากขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. ทำรูปแบบให้มีความน่าสนใจ
2. สินค้าต้องมีคุณภาพตามที่โฆษณาไว้
3. ความชัดเจน ความกระชับของข้อความโฆษณา
4. มีการทำระบบให้เข้าใจง่าย ง่ายต่อการใช้งาน
5. มีเงื่อนไขการสั่งซื้อที่ชัดเจน การส่งสินค้า นโยบาย การยืนยันหลังการสั่งซื้อ
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบ 1. สินค้าไม่ได้มาตรฐานตามที่โฆษณาไว้
2. การบริหารจัดการไม่ดี
3. ไม่มีการบริการหลังการขาย
4. ระบบที่ยุ่งยาก ยากต่อการใช้งาน
5. เกิดความผิดพลาดในระบบอยู่บ่อยครั้ง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
ตอบ • การใช้รหัส (Encryption)
• ใบรับรองทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic certificate)
• โปรโตคอล (Protocols)
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ ความไม่ปลอดภัยของข้อมูล ขาดการตรวจสอบการใช้บัตรเครดิตบน Internet ข้อมูลบนบัตรเครดิตอาจถูกดักฟังหรืออ่าน เพื่อเอาชื่อและหมายเลขบัตรเครดิตไปใช้โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่รู้ได้
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ รัฐต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาคุณภาพและบริการอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำหนดราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกคนเข้าถึง E-Commerce ได้อย่างเท่าเทียม และใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง อีกทั้งควรมีการประชาสัมพันธ์ควบคู่ไปด้วย รัฐและเอกชนจะต้องร่วมมืออย่างใกล้ชิดและเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างความแข็งแกร่ง รวมถึงสมรรถนะด้านการแข่งขันให้แก่สถาบัน องค์กรที่เกี่ยวข้องกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น การนำระบบ EDI เข้ามาใช้
เปิดเสรีบริการโทรคมนาคม ด้วยการยกเลิกการผูกขาดทางโทรคมนาคมอย่างเร็วที่สุด การเปิดการแข่งขันอย่างเสรีจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงเกินไป
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตอบ หมายถึง รูปแบบของการทำ e-commerce ที่มีรูปแบบการผสมผสานระหว่างผู้ที่มีธุรกิจร้านค้าหรือมีบริษัท เปิดให้บริการทำการค้าจริงๆ และมีเว็บไซต์เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการขาย ตัวอย่างเว็บไซต์
www.se-ed.com เป็นเว็บไซต์ของร้านซีเอ็ดที่มีหน้าร้านขายจริงๆ อยู่แล้ว ทำธุรกิจเกี่ยวกับขายหนังสือที่น่าสนในมากมาย
นาย ประสิทธิ์ บุลา เอก คหกรรมศาสตร์ รหัส 55191600202
การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อังกฤษ: Electronic commerce) หรือ อีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) [1] หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้าเป็นต้น ดังนั้นจึงลดข้อจำกัดของระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้
ในพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ให้ความหมาย ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่าเป็น ธุรกรรมที่กระทำขึ้นโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
ตัวอย่างเช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เทคโนโลยีสารสนเทศที่รุดหน้า ทั้งระบบโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต ทำให้การสื่อสารกันเป็นไปได้โดยง่าย และสามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถโต้ตอบกันได้ทันที ทำให้สามารถเสนอธุรกรรมที่หลากหลาย เช่น การชื้อขาย การบริการหลังการขาย การโอนเงินชำระค่าบริการสินค้า การขนส่ง เป็นต้น โดยมีกฎหมายธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาคุ้มครองเรื่องความปลอดภัย และยังมีกฎหมายการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ามาให้ความคุ้มครองด้วยในเรื่องของการเงิน
ข้อดีและข้อเสียของการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อดี
ประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อการเดินทางไปซื้อสินค้า เพียงแค่เลือกซื้อผ่านเว็บไซต์เท่านั้น
ประหยัดเวลาในการติดต่อ แค่ใช้เวลาไม่นานแค่เพียงไม่กี่วินาทีเราก็สามารถติดต่อซื้อสินค้าได้
การเปิดร้านค้าในอินเทอร์เน็ตเป็นการขยายตลาดสู่ทั่วโลก ไม่จำกัดเฉพาะแค่ในประเทศ และยังทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการได้เลือกซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น
ผู้ขายสามารถเปิดร้านได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด และผู้บริโภคก็สามารถซื้อสินค้าได้ทุกวัน
ข้อเสีย
ผู้ซื้ออาจไม่แน่ใจว่าสั่งซื้อแล้วจะได้รับสินค้าจริง หรือได้รับสินค้าที่ไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือสินค้าชำรุดเสียหายหรือสูญหาย
สินค้าอาจเป็นสินค้าที่ไม่ผ่านการทดสอบ หรือสินค้าไม่มีคุณภาพ
เสี่ยงต่อการถูกฉ้อโกง หรือถูกโกงราคาหรือถูกหลอกลวงได้ง่าย
ข้อมูลสินค้าบางอย่างอาจมีการโอ้อวดคุณภาพสินค้าเกินจริง โดยที่เราไม่สามารถตรวจสอบได้
ในระบบกฎหมายของไทย ยังไม่มีการให้ความคุ้มครองอย่างทั่วถึงเพียงพอ ความปลอดภัยในข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตจึงยังไม่ปลอดภัยพอ
การจดทะเบียนผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์[แก้]
เครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered)
เพื่อยืนยันการมีตัวตนของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือย่ายอินเทอร์เน็ต บริการอินเทอร์เน็ต ให้เช่าพื้นที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย บริการเป็นตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าหรือบริการ โดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะต้องไปจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถจดทะเบียนพาณิชย์ได้ที่สำนักงานเขตที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่และศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร สำหรับภูมิภาค สามารถจดทะเบียนพาณิชย์ได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล โดยเว็บไซต์ที่จดทะเบียนแล้ว จะปรากฏเครื่องหมาย Registered อยู่บนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบสถานะและการมีอยู่จริงของผู้ประกอบการ และรายชื่อผู้ประกอบการทั้งหมดจะรวบรวมอยู่ในฐานข้อมูลผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified) เพื่อรับรองมาตรฐานการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ดีสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและใช้บริการผ่านทางอินเทอร์เน็ตซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอเครื่องหมายฯ ผ่านหน้าเว็บไซต์ www.trustmarkthai.com โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ประกอบการที่จะได้รับเครื่องหมายฯ จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน และผ่านหลักเกณฑ์ตามที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำหนดซึ่งเกณฑ์ดังกล่าวได้อ้างอิงจากมาตรฐานระหว่างประเทศ เพื่อให้เป็นสากล และยอมรับอย่างแพร่หลาย
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อังกฤษ: Electronic commerce) หรือ อีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) [1] หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้าเป็นต้น ดังนั้นจึงลดข้อจำกัดของระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้
ในพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ให้ความหมาย ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่าเป็น ธุรกรรมที่กระทำขึ้นโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
ตัวอย่างเช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เทคโนโลยีสารสนเทศที่รุดหน้า ทั้งระบบโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต ทำให้การสื่อสารกันเป็นไปได้โดยง่าย และสามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถโต้ตอบกันได้ทันที ทำให้สามารถเสนอธุรกรรมที่หลากหลาย เช่น การชื้อขาย การบริการหลังการขาย การโอนเงินชำระค่าบริการสินค้า การขนส่ง เป็นต้น โดยมีกฎหมายธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาคุ้มครองเรื่องความปลอดภัย และยังมีกฎหมายการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ามาให้ความคุ้มครองด้วยในเรื่องของการเงิน
ข้อดีและข้อเสียของการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อดี
ประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อการเดินทางไปซื้อสินค้า เพียงแค่เลือกซื้อผ่านเว็บไซต์เท่านั้น
ประหยัดเวลาในการติดต่อ แค่ใช้เวลาไม่นานแค่เพียงไม่กี่วินาทีเราก็สามารถติดต่อซื้อสินค้าได้
การเปิดร้านค้าในอินเทอร์เน็ตเป็นการขยายตลาดสู่ทั่วโลก ไม่จำกัดเฉพาะแค่ในประเทศ และยังทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการได้เลือกซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น
ผู้ขายสามารถเปิดร้านได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด และผู้บริโภคก็สามารถซื้อสินค้าได้ทุกวัน
ข้อเสีย
ผู้ซื้ออาจไม่แน่ใจว่าสั่งซื้อแล้วจะได้รับสินค้าจริง หรือได้รับสินค้าที่ไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือสินค้าชำรุดเสียหายหรือสูญหาย
สินค้าอาจเป็นสินค้าที่ไม่ผ่านการทดสอบ หรือสินค้าไม่มีคุณภาพ
เสี่ยงต่อการถูกฉ้อโกง หรือถูกโกงราคาหรือถูกหลอกลวงได้ง่าย
ข้อมูลสินค้าบางอย่างอาจมีการโอ้อวดคุณภาพสินค้าเกินจริง โดยที่เราไม่สามารถตรวจสอบได้
ในระบบกฎหมายของไทย ยังไม่มีการให้ความคุ้มครองอย่างทั่วถึงเพียงพอ ความปลอดภัยในข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตจึงยังไม่ปลอดภัยพอ
การจดทะเบียนผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered)
เพื่อยืนยันการมีตัวตนของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือย่ายอินเทอร์เน็ต บริการอินเทอร์เน็ต ให้เช่าพื้นที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย บริการเป็นตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าหรือบริการ โดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะต้องไปจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถจดทะเบียนพาณิชย์ได้ที่สำนักงานเขตที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่และศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร สำหรับภูมิภาค สามารถจดทะเบียนพาณิชย์ได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล โดยเว็บไซต์ที่จดทะเบียนแล้ว จะปรากฏเครื่องหมาย Registered อยู่บนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบสถานะและการมีอยู่จริงของผู้ประกอบการ และรายชื่อผู้ประกอบการทั้งหมดจะรวบรวมอยู่ในฐานข้อมูลผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified) เพื่อรับรองมาตรฐานการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ดีสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและใช้บริการผ่านทางอินเทอร์เน็ตซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอเครื่องหมายฯ ผ่านหน้าเว็บไซต์ www.trustmarkthai.com โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ประกอบการที่จะได้รับเครื่องหมายฯ จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน และผ่านหลักเกณฑ์ตามที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำหนดซึ่งเกณฑ์ดังกล่าวได้อ้างอิงจากมาตรฐานระหว่างประเทศ เพื่อให้เป็นสากล และยอมรับอย่างแพร่หลาย
การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อังกฤษ: Electronic commerce) หรือ อีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) [1] หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้าเป็นต้น ดังนั้นจึงลดข้อจำกัดของระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้
ในพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 ให้ความหมาย ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ว่าเป็น ธุรกรรมที่กระทำขึ้นโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดหรือแต่บางส่วน
ตัวอย่างเช่น นายสมชายเปิดร้านขายสินค้าโอท็อป ผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทำให้ลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ สามารถเข้ามาดูตัวอย่างสินค้า และติดต่อซื้อขายกันได้ โดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เทคโนโลยีสารสนเทศที่รุดหน้า ทั้งระบบโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต ทำให้การสื่อสารกันเป็นไปได้โดยง่าย และสามารถเข้าถึงผู้ใช้บริการได้หลายระดับ อีกทั้งยังสามารถโต้ตอบกันได้ทันที ทำให้สามารถเสนอธุรกรรมที่หลากหลาย เช่น การชื้อขาย การบริการหลังการขาย การโอนเงินชำระค่าบริการสินค้า การขนส่ง เป็นต้น โดยมีกฎหมายธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ เข้ามาคุ้มครองเรื่องความปลอดภัย และยังมีกฎหมายการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เข้ามาให้ความคุ้มครองด้วยในเรื่องของการเงิน
ข้อดีและข้อเสียของการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อดี
ประหยัดค่าใช้จ่ายเพื่อการเดินทางไปซื้อสินค้า เพียงแค่เลือกซื้อผ่านเว็บไซต์เท่านั้น
ประหยัดเวลาในการติดต่อ แค่ใช้เวลาไม่นานแค่เพียงไม่กี่วินาทีเราก็สามารถติดต่อซื้อสินค้าได้
การเปิดร้านค้าในอินเทอร์เน็ตเป็นการขยายตลาดสู่ทั่วโลก ไม่จำกัดเฉพาะแค่ในประเทศ และยังทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการได้เลือกซื้อสินค้ามากยิ่งขึ้น
ผู้ขายสามารถเปิดร้านได้ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงไม่มีวันหยุด และผู้บริโภคก็สามารถซื้อสินค้าได้ทุกวัน
ข้อเสีย
ผู้ซื้ออาจไม่แน่ใจว่าสั่งซื้อแล้วจะได้รับสินค้าจริง หรือได้รับสินค้าที่ไม่เป็นไปตามคาดหวัง หรือสินค้าชำรุดเสียหายหรือสูญหาย
สินค้าอาจเป็นสินค้าที่ไม่ผ่านการทดสอบ หรือสินค้าไม่มีคุณภาพ
เสี่ยงต่อการถูกฉ้อโกง หรือถูกโกงราคาหรือถูกหลอกลวงได้ง่าย
ข้อมูลสินค้าบางอย่างอาจมีการโอ้อวดคุณภาพสินค้าเกินจริง โดยที่เราไม่สามารถตรวจสอบได้
ในระบบกฎหมายของไทย ยังไม่มีการให้ความคุ้มครองอย่างทั่วถึงเพียงพอ ความปลอดภัยในข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตจึงยังไม่ปลอดภัยพอ
การจดทะเบียนผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์[แก้]
เครื่องหมายรับรองการจดทะเบียนผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Registered)
เพื่อยืนยันการมีตัวตนของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าหรือบริการโดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือย่ายอินเทอร์เน็ต บริการอินเทอร์เน็ต ให้เช่าพื้นที่ของเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย บริการเป็นตลาดกลางในการซื้อขายสินค้าหรือบริการ โดยวิธีการใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะต้องไปจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ โดยในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถจดทะเบียนพาณิชย์ได้ที่สำนักงานเขตที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตท้องที่และศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร สำหรับภูมิภาค สามารถจดทะเบียนพาณิชย์ได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลหรือเทศบาล โดยเว็บไซต์ที่จดทะเบียนแล้ว จะปรากฏเครื่องหมาย Registered อยู่บนหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตรวจสอบสถานะและการมีอยู่จริงของผู้ประกอบการ และรายชื่อผู้ประกอบการทั้งหมดจะรวบรวมอยู่ในฐานข้อมูลผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งมีการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified) เพื่อรับรองมาตรฐานการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ดีสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการซื้อขายสินค้าและใช้บริการผ่านทางอินเทอร์เน็ตซึ่งผู้ประกอบการสามารถขอเครื่องหมายฯ ผ่านหน้าเว็บไซต์ www.trustmarkthai.com โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ประกอบการที่จะได้รับเครื่องหมายฯ จะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน และผ่านหลักเกณฑ์ตามที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ากำหนดซึ่งเกณฑ์ดังกล่าวได้อ้างอิงจากมาตรฐานระหว่างประเทศ เพื่อให้เป็นสากล และยอมรับอย่างแพร่หลาย
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน ซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้า
และจัดส่งสินค้า
นายภาณุพงษ์ พิมพา รหัสนักศึกษา 56191430122 สาขาฟิสิกส์ ค.บ. 5/1
การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อังกฤษ: Electronic commerce) หรือ อีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) [1] หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้าเป็นต้น ดังนั้นจึงลดข้อจำกัดของระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้
ประเภท ของ พาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์
1. แบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B : Business to Business) เป็นธุรกรรมระหว่างผู้ดำเนินธุรกิจด้วยกันเอง ส่วนใหญ่เป็นการตกลงซื้อขายสินค้
2. แบบธุรกิจกับผู้บริโภค (C2C : Consumer to Consumer) ผู้ชื่อและผู้ขายจำนวนมากจะเข้ามาเพื่อติดต่อแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าและบริการ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้ามือสองหรือการประมูล
าบริการปริมาณมาก
3. แบบธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C:Business to Consumer) เป็นการทำธุรกรรมกันระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภค ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เช่นการจองที่พักโรงแรม เสื้อผ้า
ขั้นตอนการค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์
• ขั้นตอนที่ 1 ออกแบบและจัดทำเว็บไซต์
• ออกแบบด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม น่าสนใจ
• ออกแบบขั้นตอนวิธีที่ใช้ง่ายและสะดวก
• ออกแบบเว็บให้ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน
• ออกแบบด้วยการสร้างความแตกต่าง
• ขั้นตอนที่ 2 การโฆษณาออนไลน์
• ลงประกาศตามกระดานข่าว
• จัดทำป้ายโฆษณาออนไลน์
• โฆษณาผ่านอีเมล์
• แผยแพร่ผ่านสื่ออื่นๆ
• ลงทะเบียนกับผู้ให้บริการค้นหาข้อมูล
• การลงทะเบียนเพื่อโฆษณาเว็บไซต์
• ขั้นตอนที่ 3 การทำรายการซื้อขาย
• ต้องรักษาความลับได้
• เชื่อถือได้
• พิสูจน์ทราบตัวตนจริงๆของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
• ขั้นตอนที่ 4 การส่งมอบสินค้า
• สินค้าที่จับต้องได้ (Hard goods)
• สินค้าที่จับต้องไม่ได้(Soft goods)
• software,รูปภาพ และเพลง ,บริการข้อมูลข่าวสาร
• ขั้นตอนที่ 5 การบริการหลังการขาย
นางสาวนัยนา สีสมงาม คบ. วิทยาศาสตร์ หมู่ 2
รหัส 56191960237
พาณิชย์อิเลคโทรนิกส์ (Electronic Commerce)
1. แนวคิดเกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ -->>การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> 1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> - ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
- ธุรกิจและลูกค้า
- ธุรกิจกับรัฐบาล
- ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
- สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
- สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ --->>1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ
2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ--->> 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
5. ไม่กำหนดตลาด
6. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ--->> ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ปัญหาและอุปสรรคในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> 1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. แนวทางในการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตัวอย่างพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ --->> ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (อังกฤษ: Electronic commerce) หรือ อีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) [1] หมายถึง การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง เช่น ทำเลที่ตั้ง อาคารประกอบการ โกดังเก็บสินค้า ห้องแสดงสินค้า รวมถึงพนักงานขาย พนักงานแนะนำสินค้า พนักงานต้อนรับลูกค้าเป็นต้น ดังนั้นจึงลดข้อจำกัดของระยะทางและเวลา ในการทำธุรกรรมลงได้
ประเภท ของ พาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์
1. แบบธุรกิจกับธุรกิจ (B2B : Business to Business) เป็นธุรกรรมระหว่างผู้ดำเนินธุรกิจด้วยกันเอง ส่วนใหญ่เป็นการตกลงซื้อขายสินค้
2. แบบธุรกิจกับผู้บริโภค (C2C : Consumer to Consumer) ผู้ชื่อและผู้ขายจำนวนมากจะเข้ามาเพื่อติดต่อแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าและบริการ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้ามือสองหรือการประมูล
าบริการปริมาณมาก
3. แบบธุรกิจกับผู้บริโภค (B2C:Business to Consumer) เป็นการทำธุรกรรมกันระหว่างผู้ประกอบการกับผู้บริโภค ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง เช่นการจองที่พักโรงแรม เสื้อผ้า
ขั้นตอนการค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์
• ขั้นตอนที่ 1 ออกแบบและจัดทำเว็บไซต์
• ออกแบบด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม น่าสนใจ
• ออกแบบขั้นตอนวิธีที่ใช้ง่ายและสะดวก
• ออกแบบเว็บให้ทันสมัยและเป็นปัจจุบัน
• ออกแบบด้วยการสร้างความแตกต่าง
• ขั้นตอนที่ 2 การโฆษณาออนไลน์
• ลงประกาศตามกระดานข่าว
• จัดทำป้ายโฆษณาออนไลน์
• โฆษณาผ่านอีเมล์
• แผยแพร่ผ่านสื่ออื่นๆ
• ลงทะเบียนกับผู้ให้บริการค้นหาข้อมูล
• การลงทะเบียนเพื่อโฆษณาเว็บไซต์
• ขั้นตอนที่ 3 การทำรายการซื้อขาย
• ต้องรักษาความลับได้
• เชื่อถือได้
• พิสูจน์ทราบตัวตนจริงๆของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย
• ขั้นตอนที่ 4 การส่งมอบสินค้า
• สินค้าที่จับต้องได้ (Hard goods)
• สินค้าที่จับต้องไม่ได้(Soft goods)
• software,รูปภาพ และเพลง ,บริการข้อมูลข่าวสาร
• ขั้นตอนที่ 5 การบริการหลังก
นายโกศล แป้นนะริน
56191430123
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
นางสาวสุธิดา บุญฤทธิ์
วิทยาการคอมพิวเตอร์ 56122420115
1. ตอบ
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง มีหลายเว็บที่เปิดขึ้นมาแล้ว ขาดการดูแล ผู้ซื้อเข้ามากี่เดือนก็พบรูปแบบเหมือนเดิม ซ้ำโปรโมชั่นเก่าที่เอามาลดราคาก็หมดเขตไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ทำให้เว็บขาดความเชื่อถือ
6. ไม่กำหนดตลาด
7. การออกแบบ
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ
1. ปัญหาความยากจน
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค อาทิ การขายสินค้าอุปโภคบริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
นางสาวเมธาวดี สิมมา ค.บ.ฟิสิกส์ รหัส56191430116
1.1 ความหมายของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ในทุกๆ ช่องทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ อินเทอร์เน็ต และระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์สามารถกระทำผ่าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ การโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน การโฆษณาในอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งซื้อขายออนไลน์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพื่มประสิทธิภาพขององค์กร โดยการลดบทบาทของความสำคัญขององค์ประกอบทางธุรกิจลง
1.2 ความสำคัญของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ
1. ลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร
2. ประหยัดเวลาและขั้นตอนทางการตลาด
3. เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และให้บริการได้ทั่วโลก
4. ช่องทางการจัดจำหน่ายมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ
5. สามารถทำกำไรได้มากกว่าระบบการขายแบบเดิม
6. สามารถนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าได้เป็นจำนวนมาก และสามารถสื่อสารกับลูกค้าได้ในลักษณะ Interactive Market
7. ปรับปรุงหรือ Update ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ตลอดเวลา
8. สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ซื้อหรือลูกค้า
9. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กร
10. สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้เร็วและเสียเวลาน้อย
1.3 ประเภทของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ • ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business หรือ B to B)
• ธุรกิจและลูกค้า
• ธุรกิจกับรัฐบาล
• ลูกค้ากับลูกค้า
1.4 ลักษณะของสินค้าและบริการในธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คือ สำหรับสินค้าที่ซื้อขายในพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จำแนกได้ดังนี้
• สินค้าที่มีลักษณะเป็นข้อมูลดิจิทัล (Digital Products)
• สินค้าที่ไม่ใช่ข้อมูลดิจิทัล (Non-Digital Products)
การให้เครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (DBD Verified)
2. ตอบ
2.1 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประสบผลสำเร็จ
คือ 1) ผู้เข้าร่วมทั้งสองฝ่ายมีจำนวนที่มากพอ 2) การขยายตัวของเศรษฐกิจส่งผลให้เกิดการรับสมัครงาน
2.2 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไม่ประสบผลสำเร็จ
คือ 1. การนำเสนอข้อมูลบนเว็บไซต์ หลายเว็บไซต์ยังขาดทักษะเรื่องของภาษา การนำเสนอขายสินค้า
2. ขาดบุคคลากรที่มีความรู้ การนำเสนอข้อมูลที่ขาดรายละเอียดนั้น
3. ขาดการวางแผนตลาดรองรับ
4. ขาดการส่งเสริมอย่างจริงจัง
2.3 ระบบรักษาความปลอดภัยในการชำระเงิน
คือ ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของเรานั้น ข้อมูลส่วนตัวทุกๆ อย่างของลูกค้า ไม่เว้นแม้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขบัตรเครดิตและกำหนดการการท่องเที่ยว ต่างๆ จะถูกเข้ารหัสไว้ทั้งหมดซึ่งจะทำให้ข้อมูลเหล่านี้ ไม่สามารถที่จะอ่านได้บนอินเตอร์เนต
3. ตอบ 1. ปัญหาความยากจน ความด้อยโอกาสและขาดความรู้ทางเทคโนโลยี รวมทั้งขาดเครือข่ายการสื่อสาร
2. ผู้ซื้อไม่มั่นใจเรื่องการเก็บรักษาความลับทางธุรกิจ ข้อมูลส่วนบุคคล
3. ผู้ขายไม่มั่นใจว่าลูกค้ามีตัวตนอยู่จริง
4. ตอบ ธุรกิจกับธุรกิจ (Business to Business : B2B) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการให้บริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน โดยอาจเป็นผู้ประกอบการในระดับเดียวกัน หรือต่างระดับกันก็ได้ อาทิ ผู้ผลิตกับผู้ผลิต ผู้ผลิตกับผู้ส่งออก ผู้ผลิตกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตกับผู้ค้าส่งและค้าปลีก เป็นต้น
ธุรกิจกับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถึงธุรกิจที่มุ่งเน้นการบริการกับลูกค้าหรือผู้บริโภค
5. ตอบ ผู้ขาย ผู้ซื้อ
นำเสนอสินค้า เลือกซื้อสินค้า
ตรวจสอบวงเงิน บัตรเครดิตลูกค้า ตัดสินใจซื้อสินค้า โดยใช้บัตรเครดิต
รับเงินชำระค่าสินค้าและจัดส่งสินค้า
แสดงความคิดเห็น